5 ส.ค. ประกาศชัดเจน“ร้านค้า”ร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

โครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คิกออฟ  1 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเปิดให้ประชาชนโหลด ลงทะเบียนเงินดิจิทัล เพื่อยืนยันตัวตน ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ปรากฏว่า ประชาชนแห่งลงทะเบียนในแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" หลายสิบล้านคน ซึ่งคนที่ลงทะเบียนผ่านจะอยู่ที่ขั้นตอนที่ 3 รอการตรวจสอบจากทะเบียนราษฎร สังกัดกระทรวงมหาดไทย ว่าจะเข้าเงื่อนไขรับสิทธิ์เงินดิจิทัลหรือไม่

ขณะที่อีกด้านคือ “ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ เบื้องต้นคร่าวๆมีจำนวนจำนวน 1,604,000 รายหรือแห่ง เตรียมเปิดลงทะเบียน ส.ค. นี้ ประกอบด้วยกลุ่มผู้ประกอบการและสมาชิกสมาคมค้าปลีกประมาณ 40,000-50,000 ร้าน กลุ่มผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนเป็น

• ร้านธงฟ้า 150,000 ร้าน
• ร้านอาหารประมาณ 5,000 ร้าน
• ร้านของกรมการปกครอง ประกอบด้วยหาบเร่ แผงลอย รวมประมาณ 400,000 ร้าน
• ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคลประมาณ 900,000 ร้าน

"กระทรวงพาณิชย์" เป็นหน่วยงานที่รับมอบหมายให้พิจารณาร้านค้าเข้าร่วมโครงการ โดย "ภูมิธรรม เวชยชัย" เตรียมแถลงข่าวรายละเอียดร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการในวันที่ 5 ส.ค.เวลา 10.30 -11.30 น.ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กรมการค้าใน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เป็นผู้ร่วมแถลงขั้นตอน และการลงทะเบียนของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ

“ภูมิธรรม” ระบุว่า  โครงการฯ ขั้นที่ 2 เป็นรายละเอียดเรื่องร้านค้า โดยคาดว่าจะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการประมาณ 2 ล้านร้านค้า มาจากร้านขององค์กรส่วนปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ร้านธงฟ้า ร้านที่เกี่ยวข้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมไปถึงร้านค้าหาบเร่ แผงลอย ซึ่งในวันที่ 5 ส.ค.จะมีความชัดเจนถึงขั้นตอน กระบวนการของร้านค้าที่จะเข้ามาลงทะเบียน และเมื่อเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนแล้ว ก็เชื่อว่า  จะมีร้านค้าลงทะเบียนเพิ่มมากขึ้น  และเมื่อเสร็จกระบวนการก็จะสามารถสรุปจำนวนร้านค้าได้ ก็จะสามารถสรุปจำนวนร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการว่ามีจำนวนเท่าไร

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ว่า จะเปิดให้มีการยืนยันตัวตน อาจใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการขับเคลื่อนเดินหน้าต่างๆ ให้ชัดเจน และกำหนดให้ภายในเดือนตุลาคมจะจบทั้งหมดและสามารถดำเนินการได้ตามแผนงานของ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เบื้องต้นจะมีร้านค้าเข้าโครงการอย่างน้อย 2 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการร้านค้าแสดงความกังวลและทำหนังสือให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ เช่น คุณสมบัติผู้ประกอบการที่เป็นร้านอาหารตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ระยะเวลาการโอนเงินดิจิทัลระหว่างร้านค้าต่อร้านค้าและซัพพลายเออร์ ซึ่งยังมีกระแสความไม่ชัดเจนเรื่องระยะการโอนเงินในแต่ละช่วงที่ไม่เท่ากัน เป็นต้น

 

ร้านค้าที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมโครงดิจิทัลวอลเล็ต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1.ร้านค้าที่รับการใช้จ่ายจากประชาชน กำหนดให้ เป็นร้านค้าขนาดเล็ก รวมถึงร้านสะดวกซื้อ แต่ไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น 

2. ร้านค้าที่รับการใช้จ่ายจากร้านค้า ไม่มีการกำหนดเงื่อนไข 

ทั้งนี้กำหนดให้ร้านค้าที่สามารถเบิกถอนเงินสดได้เฉพาะร้านค้าที่อยู่ใน ระบบภาษี ได้แก่

• ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax: VAT) 
• ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax: PIT)
• เฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรัษฎากร 
• ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax CIT)

ในส่วนของสินค้านั้นสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกประเภท แต่มีสินค้า 18 รายการที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการฯ หรือ Negative List ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์จากกัญชาและกระท่อม บัตรกำนัล บัตรเงินสด ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือสื่อสาร

5 ส.ค.นี้ ร้านค้าที่อยากเข้าร่วมโครงการต้องไม่พลาดฟังการแถลงแจงรายละเอียดของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จากปากของนายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนี้อาจมีการแถลงรายละเอียดแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในช่วงไตรมาส 3 เดือนนี้ซึ่งเป็นเป็นมาตรการคู่ขนานไปกับเงินดิจิทัลวอลเล็ต