สนข. เผย 5 นักลงทุนต่างชาติสนใจชิง 'แลนด์บริดจ์' คาดประมูลปลายปี 68
สนข.เผย 5 นักลงทุนต่างชาติ สนใจชิง “แลนด์บริดจ์” เดินหน้าจ้างที่ปรึกษาจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา ปักหมุดเปิดประมูลปลายปี 2568 พร้อมกางแผนผลักดัน 6 โครงการเร่งด่วน
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยระหว่างนำสื่อมวลชนศึกษาดูงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงหัวหิน - ประจวบคีรีขันธ์ และลงพื้นที่เยี่ยมชมสนามบินหัวหิน โดยระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาคใต้ที่กำลังจะมีการพัฒนาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (แลนด์บริดจ์)
อย่างไรก็ดี สนข.รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบท่าเรือ และเขตอุตสาหกรรมที่จะครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และชุมพร โดยที่ผ่านมา สนข.ได้ลงพื้นที่ให้ข้อมูลและทำความเข้าใจกับประชาชนใน 4 จังหวัดดังกล่าว และพบว่าประชาชนในพื้นที่สนับสนุนให้เกิดการลงทุนเขตอุตสาหกรรมนี้ เพื่อประโยชน์สร้างรายได้และพัฒนาเมือง เติบโตไปพร้อมกับโครงการแลนด์บริดจ์
“โครงการแลนด์บริดจ์ตอนนี้เป็นโครงการที่เกิดการลงทุนแน่นอน เพราะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เช่น จีน ดูไบ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยนักลงทุนเห็นด้วยกับแผนพัฒนาและรายละเอียดโครงการที่ศึกษาไว้ รวมทั้งยังเล็งเห็นว่าหากมีการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น จะทำให้โครงการแลนด์บริดจ์ประสบความสำเร็จอย่างมาก”
สำหรับการขับเคลื่อนโครงการแลนด์บริดจ์ สนข.ได้จัดสรรงบประมาณในปี 2568 จ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษารายละเอียดโครงการ เพื่อประกวดราคาคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน คาดว่าจะดำเนินการเปิดประมูลได้ภายในปลายปี 2568 ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับการจัดทำพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ พ.ร.บ. SEC
โดยสถานะปัจจุบัน สนข.ได้เสนอ พ.ร.บ.SEC ไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณา และเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) เพื่อมอบหมายให้ สนข. จัดทำร่าง พ.ร.บ. แล้ว คาดว่าจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ. SEC ไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในสัปดาห์แรกของเดือน ก.ย.นี้ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยคาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จ พ.ร.บ.SEC น่าจะมีผลในช่วงต้นปี 2568
นายปัญญา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน สนข.ยังมีแผนการดำเนินงานที่อยู่ระหว่างการนำเสนอกระทรวงคมนาคม จำนวน 6 โครงการ ได้แก่
1. พระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ โดยใช้บัตรโดยสารเพียงใบเดียว
2. พระราชบัญญัติเขตพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ พ.ร.บ. SEC เพื่อใช้ในการกำกับดูแล และอำนวยความสะดวกแก่ผู้ลงทุน การวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน มีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคที่เชื่อมโยงกันทั้งในและนอกระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
3. แผนพัฒนาการเดินทางทางน้ำในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (W-MAP) เพื่อพัฒนาการเดินทางทางน้ำ ยกระดับการบูรณาการเดินทางกับรูปแบบอื่น เพิ่มการใช้ประโยชน์เพื่อการสัญจรและการท่องเที่ยว
4. แผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงรูปแบบการเดินทาง เพื่อเข้าถึงสถานีรถไฟฟ้าและสนามบินในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (Feeder) พัฒนาจุดเชื่อมต่อการเดินทาง ล้อ - ราง - เรือ พร้อมปรับปรุงลักษณะกายภาพ และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้บริการได้อย่างสะดวก
5. แผนการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (พ.ศ. 2566 - 2580) โดยเร่งผลักดันและขับเคลื่อนนโยบาย EV ภาคคมนาคม พัฒนาการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ พร้อมส่งเสริมให้ประชาชนใช้งานระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น และลดมลพิษ
6. แผนพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ โดยอาศัยแนวคิด Transit Oriented Development หรือ TOD เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟ 177 สถานี ทั่วประเทศ