สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด ดันราคา WTI

สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด ดันราคา  WTI

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการที่ลิเบียลดการผลิตน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง

ในวันพุธ (7 ส.ค.)  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.77% ปิดที่ 75.23 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.85 ดอลลาร์ หรือ 2.42% ปิดที่ 78.33 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะลดลงเพียง 700,000 บาร์เรล และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 สัปดาห์

ลิเบียได้ปรับลดการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันชารารา (Sharara) ลง 300,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานตึงตัวและเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน โดยบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (National Oil Corp) ของลิเบียได้ประกาศภาวะสุดวิสัย (Force Majeure) ที่บ่อน้ำมันชาราราเมื่อวานนี้ และจะเริ่มปรับลดการผลิตจากแหล่งน้ำมันดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผลกระทบของเหตุการณ์ประท้วง

ภาวะสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ข้อพิพาทด้านแรงงาน การประท้วง การก่อการร้าย และภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ส่วนสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงตึงเครียดและคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลางซึ่งเป็นภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันดิบมากถึง 1 ใน 3 ของโลก หลังจากอิหร่านประกาศว่าจะล้างแค้นอิสราเอลและสหรัฐ ภายหลังจากผู้นำกลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ถูกลอบสังหาร

มิเชล โฮโรวิตซ์ นักวิเคราะห์ของบริษัท Le Beck International กล่าวว่า นายยาห์ยา ซินวาห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองคนใหม่ของกลุ่มฮามาส เป็นคนที่หัวรุนแรงมากกว่าและประนีประนอมน้อยกว่านายอิสมาอิล ฮานิเยห์ซึ่งถูกลอบสังหารที่กรุงเตหะรานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนายซินวาห์เป็นแกนนำในการโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.เมื่อปีที่แล้ว

ทั้งนี้ อิหร่านและกลุ่มฮามาสต่างกล่าวหาว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนายฮานิเยห์ แต่ทางอิสราเอลไม่ได้ออกมายอมรับหรือปฏิเสธแต่อย่างใด