'สภาพัฒน์‘ ชงรัฐบาล ‘แพทองธาร‘ ดันแผนกระตุ้น - รับมือ 'เศรษฐกิจโลก' ป่วน
“สภาพัฒน์” เตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชง ครม.ใหม่ กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และเตรียมขอใช้เม็ดเงินจากงบปี 68 เตรียมรับมือสถานการณ์เทรดวอร์รอบใหม่ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เผยดิจิทัลวอลเล็ตมีทางเลือกหากไม่ทำโครงการสามารถโยกงบทำโครงการอื่นได้
KEY
POINTS
- “สภาพัฒน์” เตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจชงรัฐบาลแพทองธาร-ครม.ใหม่
- ชี้การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นจำเป็นเพื่อประคองกำลังซื้อ ซึ่งต้องรอรัฐบาลตัดสินใจเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอีกครั้ง
- เตรียมเสนอขอใช้เม็ดเงินจากงบปี 68 เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์เทรดวอร์รอบใหม่ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ที่ต้องเตรียมความพร้อม
- เผยดิจิทัลวอลเล็ตมีทางเลือกหากไม่ทำโครงการสามารถโยกงบทำโครงการอื่นได้
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลก โดยระยะต่อไปเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนจากภาวะภูมิรัฐศาสตร์โลกที่มีความขัดแย้งกันมากขึ้น เช่น ตะวันออกกลาง
นอกจากนี้สถานการณ์หลังการเลือกตั้งสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเกิดการกีดกันทางการค้าจนเป็นสงครามการค้ารอบใหม่
ทั้งนี้ สศช.จะนัดหารือกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงมาตรการที่จะเสนอให้รัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินการ เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทย ซึ่งจะใช้วงเงินจากงบประมาณรายจ่ายปี 2568 บางส่วน และต้องเตรียมให้พร้อม และสามารถขับเคลื่อนออกไปได้ทันทีเมื่อมีความจำเป็น
“มาตรการที่จะออกมาคงต้องดูเครื่องไม้เครื่องมือว่าจะใช้มาตรการในลักษณะใด และต้องดูช่วงเวลา โดยอาจมีมาตรการออกมาในช่วงแรกแล้วประเมินสถานการณ์ รวมทั้งผลกระทบจากภายนอกก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ทรัพยากรงบประมาณมีจำกัด และพื้นที่การคลังก็เหลือแค่ 6.5% เท่านั้น เพราะหนี้สาธารณะตอนนี้อยู่ที่ 63.5% แล้ว" นายดนุชา กล่าว
รวมทั้งต้องดูช่วงเวลา และปริมาณที่เหมาะสมด้วย เพราะหากจะทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนก็ต้องมีการเตรียมพร้อมว่าจะทำโครงการอะไรบ้าง เพื่อให้เม็ดเงินสามารถออกไปได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ต้องมีการหารือกับรัฐบาล และ ครม.ชุดใหม่ รวมทั้งกระทรวงการคลัง และ ธปท.ด้วย
งบเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้รัฐบาลใหม่ตัดสินใจ
สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น สศช.มองว่ามีความจำเป็นซึ่งโครงการที่ช่วยในเรื่องการบริโภคของประชาชนก็สามารถที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในระยะสั้น แต่ระยะต่อไปจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ต้องมีการลงทุน
สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปีหรือไม่ว่า ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ เพราะเมื่อพิจารณาวงเงินของโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท โดยเฉพาะงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 วงเงิน 122,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านขั้นตอนการพิจารณาของรัฐสภาแล้วต้องอยู่ที่รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้หากรัฐบาลเห็นว่าดิจิทัลวอลเล็ตจะไม่ทำต่อไป ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นก็คงต้องดูมาตรการอื่นเข้ามาเติม เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย ก็คงต้องพูดคุยหัน และดูว่านายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะมีความเห็นว่าอย่างไร แต่ส่วนตัวคิดว่า คงมีมาตรการอะไรออกมาสักอย่าง เพื่อช่วยประชาชนในช่วงนี้
“ตอนนี้ยังไม่ทราบ แต่หากมีการปรับเปลี่ยน ก็ต้องดูว่าจะการปรับเปลี่ยนนั้นรัฐบาลจะปรับเปลี่ยนไปในลักษณะไหน เนื่องจากเงื่อนไขของโครงการเดิมก็มีเงื่อนไขสำคัญ คือ แหล่งเงินที่จะใช้ ทั้งงบประมาณเพิ่มเติมปี 2567 ก็มีช่วงเวลาของการใช้จ่าย" นายดนุชา กล่าว
ส่วนงบประมาณปี 2568 ก็เตรียมจะออกมาใช้ ก็ต้องมาดูว่ามีผลกระทบอย่างไร อีกส่วนของโครงการนั้นคือ การจัดทำระบบต่างๆ ซึ่งต้องดูว่าขณะนี้มีการดำเนินการไปอย่างไรบ้าง และในระดับนโยบายคงต้องหารือกันอีกครั้งว่าจะมีความห็นอย่างไร รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆ ด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์