ดีพร้อม จัดบิ๊กอีเวนท์ CRAFT DRINK by DIPROM ดันเครื่องดื่มไทยไปไกลสู่สากล
"ดีพร้อม" เตรียมจัดบิ๊กอีเวนท์ “CRAFT DRINK by DIPROM” ศาสตร์และศิลป์เครื่องดื่มไทย นำธุรกิจไกลสู่สากล 5-10 ก.ย.นี้ ณ ลานศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 3 แสนคน และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท
นายภาสกร ชัยรัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่เร่งส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เน้นต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ เสริมอัตลักษณ์ความเป็นไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ซึ่งประเทศไทยเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและวัตถุดิบท้องถิ่นที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม เกษตรกรส่วนใหญ่ยังมีรายได้ต่ำเนื่องจากขายผลผลิตในรูปแบบวัตถุดิบที่ไม่ผ่านการแปรรูป
ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีนโยบายในการผลักดันให้เกิดพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่และส่งเสริมการแปรรูปวัตถุดิบสู่เกษตรอุตสาหกรรม อีกทั้งประเทศไทยเหมาะสำหรับการปลูกโกโก้เกือบทุกพื้นที่เนื่องจากเป็นพืชที่มีความทนทาน และแนวโน้มความต้องการบริโภคโกโก้ในตลาดโลกยังคงอยู่ในเกณฑ์ขยายตัว รวมถึงปัจจุบันมีธุรกิจร้านกาแฟเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่อุปทาน
นอกจากนี้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 ประเทศไทยได้ปลดล็อคสุราพื้นบ้าน โดยการปรับโครงสร้างภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงสุราชุมชน เพื่อส่งเสริมให้คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายและซื้อสินค้าภายในประเทศมากขึ้น จึงได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ให้เร่งดำเนินการส่งเสริม และสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถต่อยอดและพัฒนาพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยต่อไปในอนาคต
นายภาสกร กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้เดินหน้าตามนโยบาย "RESHAPE THE FUTURE: โลกเปลี่ยน อุตสาหกรรมปรับ พร้อมรับอนาคต" โดยมุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนเครื่องดื่มไทย อาทิ โกโก้ กาแฟ และสุราชุมชน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้สามารถเติบโตได้ในระดับสากลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต จึงก่อให้เกิดงาน “CRAFT DRINK by DIPROM ศาสตร์และศิลป์เครื่องดื่มไทย นำธุรกิจไกลสู่สากล” ขึ้น จากการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้แสดงศักยภาพของเครื่องดื่มไทยที่มีความโดดเด่นจาก 4 ภาค ทั้ง กาแฟ โกโก้ และสุราชุมชน
โดยมี ไฮไลต์ที่น่าสนใจภายในงาน อาทิ บูธจัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชุมชนจากผู้ประกอบการทั่วประเทศที่ได้รับคัดเลือก รวมกว่า 120 บูธ และกิจกรรมไฮไลต์ที่น่าสนใจ อาทิ การประกวดสุราชุมชน DIPROM STARS, การประกวด Speed Latte Art DIPROM Contest และ Cocoarista DIPROM Contest ชิงเงินรางวัลและโล่รางวัลรวมมูลค่ากว่า 40,000 บาท พร้อมด้วยโซนให้คำปรึกษาแนะนำแนวทางธุรกิจและการให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ รวมถึงการรังสรรค์เครื่องดื่มพิเศษจากสุราชุมชนจากเหล่าท็อปบาร์เทนเดอร์ พร้อมร่วมชิมและชมการชงกาแฟ โกโก้ของไทยจากเหล่าท็อปบาริสต้า และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำสุดฮอตที่มาสร้างสีสันด้วยเสียงเพลง และกิจกรรมความบันเทิงอีกมากมาย ซึ่งจะเกิดการกระจายรายได้ และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในระดับชุมชน
โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานมากกว่า 3 แสนคน และต่อยอดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นตลอด 6 วัน ระหว่างวันที่ 5 - 10 กันยายน 2567 เวลา 10.00 – 22.00 น. ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สอบถามข้อมูลได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) โทร. 0 2430 6860 หรือเว็บไซต์ www.diprom.go.th
นายไพฑูรย์ กระโทกนอก ตัวแทนผู้ประกอบการจาก Cocoa Farm กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปเมล็ดโกโก้มองว่าตลาดโกโก้ไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพสูง ด้วยคุณภาพของเมล็ดโกโก้ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกและติดอันดับ TOP 50 ของโกโก้ที่ดีที่สุด ทำให้โกโก้ไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้นทั่วโลก นอกจากนี้ โกโก้และคราฟท์ช็อกโกแลตยังเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมจากคนทุกเพศทุกวัย แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นเนื่องจากโกโก้ไม่สามารถปลูกได้ในทุกประเทศ แต่ประเทศไทยมีภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการปลูกโกโก้ ทำให้มีโอกาสเติบโตในตลาดโลกได้อีกมาก หากมีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมโกโก้และคราฟท์ช็อกโกแลตของไทยอาจกลายเป็น Soft Power ด้าน Food ที่สำคัญและสร้างรายได้ให้กับประเทศ
ขณะเดียวกันสมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย (TACCO) กำลังส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตให้กับเกษตรกร ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่น่าสนใจในวงการนี้ โดย ดีพร้อม ได้ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านมาตรฐานและการเพิ่มผลิตภาพการผลิตโกโก้ด้วยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรม Smart Farming เช่น การใช้ IoT ในการตรวจจับข้อมูล วัดค่า และแสดงผลแบบ Realtime ในกระบวนการหมักเมล็ดโกโก้ เป็นต้น
นางสาวลลิดา สิทธิพฤษทานนท์ ตัวแทนผู้ประกอบการจาก OMNiA Café & Roastery เชียงใหม่ กล่าวว่า อุตสาหกรรมกาแฟไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีการพัฒนาความสามารถในการเพิ่มผลผลิตกาแฟคุณภาพสูงควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่รักการดื่มกาแฟและมีความสนใจในการทดลองรสชาติใหม่ ๆ ด้วยการเน้นให้คุณภาพและความคิดสร้างสรรค์นี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกาแฟไทยในตลาดโลก ตลอดจนสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ที่มองหาประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ไม่เหมือนใคร
โดยกลุ่มอุตสาหกรรมกาแฟได้รับการสนับสนุนจาก ดีพร้อม ในการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือให้เกิดธุรกิจอย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเมล็ดกาแฟสเปเชียลตี้ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง รับการเติบโตของธุรกิจร้านเครื่องดื่มและการท่องเที่ยวในภาคเหนือ รวมถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนยุคใหม่ ที่อายุน้อยลง และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟกาแฟพิเศษ (Specialty Coffee) เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งความร่วมมือนี้ครอบคลุมการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีการผลิต การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ การส่งเสริมการตลาด และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับสากล นอกจากนี้ ยังมีการจัดอบรมและให้คำปรึกษาด้านการสร้างโอกาสทางธุรกิจและรองรับการเติบโตของตลาดเมล็ดกาแฟไทยที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้อีกด้วย