'คมนาคม' ร่วม 3 หน่วยงาน ขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่ 'ส่วยสติกเกอร์'

'คมนาคม' ร่วม 3 หน่วยงาน ขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่ 'ส่วยสติกเกอร์'

“คมนาคม” บูรณาการ CIB - ป.ป.ท. - ป.ป.ช. จับกุมเจ้าหน้าที่ ทล. เรียกรับส่วยรถบรรทุก พร้อมเร่งศึกษาข้อกฎหมายเพิ่มโทษให้หนักขึ้น เน้นย้ำ “ส่วยสติกเกอร์ ส่วยทางหลวง”ต้องหมดไปในรัฐบาลนี้

นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา โฆษกกระทรวงคมนาคม พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และนายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมข้าราชการกรมทางหลวง (ทล.) ที่เรียกรับส่วย โดยกระทรวงฯ ได้มีมาตรการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ประจำสถานีด่านชั่งน้ำหนัก รถบรรทุกทั่วประเทศ ครั้งละไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความคุ้นเคยของเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการขนส่ง

นอกจากนี้ นำเทคโนโลยีระบบตรวจวัดสามมิติ (3D Measurement System) ร่วมกับด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุกในขณะรถวิ่ง (Weight in Motion: WIM) พร้อมทั้งระบบกล้องถ่ายป้ายทะเบียน (LPR) เพิ่มสถานีตรวจสอบน้ำหนักและจุดจอดพักรถบรรทุก รวมถึงหน่วยชั่งน้ำหนักเคลื่อนที่ (Spot Check) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมแผนงานและงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์ให้ครอบคลุมโครงข่ายทางหลวงทั่วประเทศอีกด้วย

\'คมนาคม\' ร่วม 3 หน่วยงาน ขยายผลจับกุมเจ้าหน้าที่ \'ส่วยสติกเกอร์\'

อย่างไรก็ตาม ยังมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบางรายที่เรียกรับผลประโยชน์จากการปฏิบัติงาน กระทรวงคมนาคมจึงประสานงานกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 3 ราย ประกอบด้วย

  • นายนพดล แสนงาย ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลอาวุโส หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักอุบลราชธานีขาออก ทล. และเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ Spot check
  • นายอเนก คำโฉม ตำแหน่งนายช่างเครื่องกลชำนาญงาน หัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักด่านขุนทด ขาเข้านครราชสีมา
  • นายธงชัย เต็มฟอม พลเรือนทำหน้าที่เป็นหน้าเสื่อคอยเคลียร์กับผู้ประกอบการรถบรรทุก

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยึดมั่นในการกวาดล้างส่วยสติกเกอร์รถบบรรทุกที่น้ำหนักเกิน โดยในปีที่ผ่านมาได้ตรวจสอบการบรรทุกน้ำหนักมากกว่า 30 ล้านครั้ง และสามารถจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ถึง 2,600 ครั้ง อีกทั้งได้เร่งศึกษาและพิจารณาถึงการแก้ไขข้อกฎหมาย เพื่อกำหนดบทลงโทษให้หนักและเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ในชั้นการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนการดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดจะได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง เพื่อขยายผลต่อไป

“รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าปัญหาส่วยทางหลวง ส่วยสติกเกอร์ จะต้องหมดไปในยุคของรัฐบาลนี้ ซึ่งกระทรวงคมนาคม โดย ทล. จะแก้ไขปัญหาไม่ให้ลุกลามต่อไป” นายกฤชนนท์ กล่าว