เปลี่ยน“เปลือกไข่” ให้มีคุณค่า ไม่ทิ้งเป็นขยะ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เปลี่ยน“เปลือกไข่” ให้มีคุณค่า ไม่ทิ้งเป็นขยะ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)ที่กำลังส่งผลทั่วโลก ซึ่งทุกคนต้องตระหนักและเตรียมพร้อมรับมือ เพื่อดูแลให้ทุก ชีวิตข้ามวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

KEY

POINTS

โรงงานแปรรูปไข่บ้านนา จังหวัดนครนายก นำเปลือกไข่บดที่เหลือจากกระบวนการผลิต แบ่งปันให้เกษตรกรในพื้นที่นำไปใช้ปรับดินก่อนการเพาะปลูก จากการที่คุณสมบัติของเปลือกไข่ที่ช่วยให้ดินร่วนซุย โดยในละปีมีเปลือกไข่บดเฉลี่ยที่ให้กับเกษตรกร 1,800 ตันต่อปี และในปีนี้ ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCG Decor (SCGD) สนับสนุนเปลือกไข่ในการวิจัย และพัฒนาสินค้าสุขภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ COTTO โด

หลัก Circular Economy หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ ถูกนำมาประยุกต์ใช้ เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) หรือนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดประโยชน์ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสีย วัตถุดิบ และพลังงาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญไปสู่เป้าหมายลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero)

ในอุตสาหกรรมอาหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ บริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ประกาศเป้าหมาย Net-Zero ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) บนเส้นทางความมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สอดรับตามเป้าหมาย SDGs

เปลี่ยน“เปลือกไข่” ให้มีคุณค่า ไม่ทิ้งเป็นขยะ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

แผนปฏิบัติการเพื่อมุ่งสู่ Net-Zero ของซีพีเอฟ กำหนดกลยุทธ์ที่เป็นแนวนโยบายหลัก อาทิ ลดปริมาณของเสียสู่การฝังกลบและเผา (Zero Waste to Landfill)ให้เป็นศูนย์ ด้วยแนวคิดสร้างมูลค่าจากขยะ (Waste to Value)นำขยะมาใช้ซ้ำหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งในกระบวนการผลิตของซีพีเอฟ

มีเศษเปลือกไข่ที่เหลือ และถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า ควบคู่กับการมีส่วนช่วยชุมชนและสิ่งแวดล้อมโรงฟักไข่ชัยภูมิ (ธุรกิจไก่ปู่ - ย่าพันธุ์เนื้อ) จังหวัดชัยภูมิ นำเปลือกไข่ มาใช้ทำโครงการปุ๋ยเปลือกไข่สู่ชุมชนและเกษตรกรบ้านซับรวงไทร เปลี่ยนเศษเปลือกไข่เป็นปุ๋ยด้วยวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ช่วยลดขยะสู่บ่อฝังกลบ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรในการซื้อปุ๋ย จากการที่เกษตรกรสามารถผลิตปุ๋ยใช้เอง เป็นประโยชน์กับเกษตรกรรอบสถานประกอบการ ประกอบกับปุ๋ยเปลือกไข่มีคุณสมบัติช่วยปรับสภาพของดิน ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิตให้กับเกษตรกรกร

เปลี่ยน“เปลือกไข่” ให้มีคุณค่า ไม่ทิ้งเป็นขยะ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

จากเปลือกไข่ที่เหลือในกระบวนการผลิต ถูกนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ นอกจากทำปุ๋ยที่มีส่วนผสมของเปลือกไข่แล้ว ซีพีเอฟต่อยอดสนับสนุนงานวิจัยสร้างคุณค่าเพิ่มจากเปลือกไข่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม โดยสนับสนุนเปลือกไข่ให้กับโครงการผลิตไบโอซีเมนต์

ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มวิจัยวัสดุชีวภาพอัจฉริยะและเทคโนโลยี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้รับทุนวิจัยร่วมกับสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา และสำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน นำเปลือกไข่ใช้เป็นส่่วนผสมเพื่อผลิตต้นแบบแผ่น Bio-Cement สำหรับการลดการซึมของน้ำบาดาลเค็มในพื้นที่นาข้าว เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในการใช้ประโยชน์วัสดุเหลือจากอุตสาหกรรม และขยายผลการใช้ไบโอซีเมนต์เพื่อหน่วงน้ำในแปลงนาในพื้นที่อื่นๆ ที่ประสบปัญหาดินเค็ม และน้ำกร่อย

เปลี่ยน“เปลือกไข่” ให้มีคุณค่า ไม่ทิ้งเป็นขยะ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

รวมทั้งจะนำไปใช้ในการพัฒนาและขยายผลไปสู่การสร้างคลองส่งน้ำในพื้นที่การเกษตร ผลศึกษาในเบื้องต้น พบว่าไบโอซีเมนต์ 1 กรัม สามารถกักเก็บก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ได้ 41 กรัม และในอนาคต มีความเป็นไปได้ว่าไบโอซีเมนต์ที่ได้ จะถูกนำมาพัฒนาสูตรให้สามารถใช้กับเครื่องพิมพ์สามมิติ ที่จะนำไปผลิตปะการังเทียม หรือพัฒนาเป็นไบโอคอนกรีต ที่อาจถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้างเพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำใต้ดินต่อไป