‘บีโอไอ’ จับมือพันธมิตร ดันไทยฮับผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในอาเซียน
“บีโอไอ” จับมือพันธมิตร ขนทัพเทคโนโลยีชิ้นส่วนและโซลูชันการผลิตขั้นสูง เชื่อมโอกาสทางธุรกิจ คาดสร้างมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมดันไทย "ศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน"
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภาคตะวันออกถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยเฉพาะด้านการลงทุน การค้า และการท่องเที่ยว จากความโดดเด่นของโครงสร้างพื้นฐานที่มีศักยภาพพร้อมรองรับการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือน้ำลึก สนามบินนานาชาติระบบโลจิสติกส์ ระบบโทรคมนาคม ไฟฟ้า ประปา และนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว
โดยภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออก ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวน 625 โครงการ เงินลงทุนรวม 211,569 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 46 ของเงินลงทุนทั้งหมดของประเทศ นับว่าภาคตะวันออก เป็นพื้นที่รองรับการลงทุนที่มีมูลค่าสูงที่สุดของประเทศไทย โดยเฉพาะใน 3 คลัสเตอร์อุตสาหกรรมเป้าหมาย คือ ยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการลงทุนและซัพพลายเชนในพื้นที่ภาคตะวันออก บีโอไอ จึงได้ผนึกกำลังสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย (ไทยซับคอน) และอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมด้วยภาคีเครือข่าภาคอุตสาหกรรม ร่วมเปิดงาน "SUBCON Thailand : The East 2024" ระหว่างวันที่ 4 - 6 กันยายน 2567 เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นการจัดงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และขยายพื้นที่เป้าหมายให้ครอบคลุม 8 จังหวัดในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงอุตสาหกรรมระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้ผลิตชิ้นส่วนในพื้นที่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการภาคตะวันออกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รองรับการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเข้ามา ผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดซื้อชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียนอีกทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจแลกเปลี่ยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภาคการผลิต เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ต้องมีทั้งความ Smart และ Green
โดยไฮไลท์ของการจัดงานในครั้งนี้ ได้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเข้าร่วม เพื่อเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อรายสำคัญกว่า 100 ราย ในส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น บริษัท Isuzu, Kawasaki Motors อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช่น บริษัท Midea, Chicony Power อุตสาหกรรมPCB เช่น บริษัท Sanmina-SCI Systems, Techman Electronic เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 600 คู่ และสร้างมูลค่าการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 3,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Buyers’ Village แสดงชิ้นส่วนที่ผู้ซื้อมีความต้องการจัดซื้อและจัดหาผู้รับช่วงการผลิต รวมถึงกิจกรรม Sourcing Day ที่บีโอไอจัดร่วมกับ บริษัท โฟตอน ซีพี มอเตอร์ จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนของผู้ผลิตรายสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกทั้งยังมีบูธให้คำปรึกษา (Industrial Clinic) และงานสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในอุตสาหกรรมใหม่และการนำเทคโนโลยีเข้ามายกระดับมาตรฐานการผลิต
นายชนินทร์ ขาวจันทร์ นายกสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ภาคตะวันออกมีนิคมอุตสาหกรรมกว่า 40 แห่ง ซึ่งทางสมาคมฯ เล็งเห็นโอกาสในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต สอดรับกับบทบาทของสมาคมฯ ที่มุ่งสนับสนุนสมาชิกซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตให้มีพื้นที่และมีส่วนในการสนับสนุนนักลงทุนในภาคตะวันออกในการผลิตผลิตภัณฑ์ให้แข่งขันได้ในตลาดโลกโอกาสทางการค้า มองหาตลาดใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตและการพัฒนาในเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคในภูมิภาคนี้ จึงได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน MIRA และ SUBCON Thailand: The East 2024 โดยได้นำภาคีเครือข่ายภาคอุตสาหกรรมร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงเพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ