ส่องโอกาสทองส่งออก ‘ฮาลาลไทย’ ปี 2025 อาวุธพร้อม ลุ้นติดท็อป 5 ของโลก

ส่องโอกาสทองส่งออก ‘ฮาลาลไทย’ ปี 2025 อาวุธพร้อม ลุ้นติดท็อป 5 ของโลก

ความต้องการของตลากฮาลาลโดยเฉพาะอาหารเติบโต สวนทางความมั่นคงทางอาหารในประเทศมุสลิม ขณะที่หลายประเทศมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศให้ผ่านการรับรองฮาลาล เพื่อเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดฮาลาลโลก

KEY

POINTS

  • ความต้องการของตลาดฮาลาลโดยเฉพาะอาหาร เติบโตสวนทางความมั่นคงทางอาหารในประเทศมุสลิม
  • หลายประเทศมองเห็นโอกาส และมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศให้ผ่านการรับรองฮาลาล เพื่อเข้าชิงส่วนแบ่งตลาดฮาลาลโลก  
  • ปี 2025 รัฐพร้อมหนุนสร้างโอกาสทองส่งออกฮาลาลไทย ทั้งสินเชื่อพิเศษ หลักสูตรปั้นบุคคลากร และตั้งหน่วยงานดูแล “ศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย”

ตลาดฮาลาลโลกถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนประชากรมุสลิมทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความต้องการสินค้าและบริการที่ได้รับการรับรองฮาลาลที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปขอส่วนแบ่งในตลาดดังกล่าว

นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ตลาดฮาลาลประกอบไปด้วยสินค้าที่หลากหลาย ทั้งสิ่งทอ เวลเนส สุขภาพ สปา ท่องเที่ยว ซึ่ง อาหารถือเป็น 80-85% ของมูลค่าตลาด

ทั้งนี้สินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานฮาลาลมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของประชากรชาวมุสลิมทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไร รวมถึงตะวันออกกลางและแอฟริกา โดยในปี 2050 คาดการณ์ว่าจะมีประชากรมุสลิมราว 2.8 พันล้านคน 

ในขณะที่ประเทศที่มีประชากรมุสลิมส่วนใหญ่มีสถานะความมั่นคงทางอาหารในระดับต่ำ ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารมากขึ้น สวนทางกับการเติบโตของจำนวนประชากร

นอกจากนี้ ยังมีความนิยมสินค้ารับรองฮาลาลของกลุ่มผู้บริโภค Non-Muslim ที่เพิ่มขึ้น จากการตระหนักถึงคุณภาพและเชื่อมั่นในความปลอดภัยว่าการรับรองมาตรฐานฮาลาลมีความเข้มงวด

ดังนั้นจึงทำให้หลายประเทศให้ความสำคัญและมีการกำหนดนโยบายที่สนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศให้ผ่านการรับรองฮาลาลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อขยายตลาดการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศข้างต้น รวมถึงประเทศไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออกสินค้าฮาลาลปี 2566 อยู่ที่ 222,247 ล้านบาท คิดเป็นอันดับที่ 11 ของโลก และคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้ 4% ต่อปี

นายไพศาล พรหมยงค์ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการผลักดันสินค้าฮาลาลจากภาครัฐ แต่ก็ยังไปไม่ถึงเป้าหมาย เนื่องจากยังมีจุดอ่อนหลายประการ อาทิ การกีดกันทางการค้า ความน่าเชื่อถือของการรับรองฮาลาลไทย ภาพจำที่คนทั่วไปคิดว่าไทยเป็นเมืองพุทธ และต้นทุนค่าขนส่งที่สูงทำให้แข่งขันราคาได้ยาก 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2025 นี้ ถือว่าจะเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการฮาลาลในไทย ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ประกอบด้วย ความพร้อมของผู้ประกอบการ การทำงานอย่างเข้มแข็งขององค์กรศาสนา สถาบันส่งเสริมความรู้ในระดับอุดมศีกษาที่ผลิตบุคคลากรในหลักสูตร การจัดการระบบกิจการฮาลาล 

สถาบันการเงินพันธมิตรที่คิดโปรแกรมสินเชื่อพิเศษให้ผู้ประกอบการฮาลาล และยังมีองค์กรส่งเสริมและสนับสนุนที่ตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยผู้ประกอบการไปสู่ตลาดส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม 

นอกจากนี้ นโยบายของภาครัฐที่ช่วยส่งเสริม ตั้งแต่ปี 2565 ที่ประเทศไทยกลับมาฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดีอาระเบีย เสมือนเป็นการเปิดประดูการค้ากับโลกอาหรับ 

ปี 2566 มีการประกาศจตั้งกรมฮาลาล เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางฮาลาลของภูมิภาคอาเซียน และมีการตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำให้ง่ายต่อการนำเสนอและขับเคลื่อนนโยบาย

ปี 2567 ตั้งศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาลไทย เป็นหน่วยงานรับผิดชอบที่เชื่อมโยงกรอบความร่วมมือจาก 12 หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับฮาลาล เป็น One Stop Service เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว 

“ความสำเร็จของธุรกิจอยู่ที่ซัพพลายเชน ซึ่งขณะนี้องค์ประกอบของอุตสาหกรรมฮาลาลเพื่อการส่งออกของประเทศไทยมีครบสมบูรณ์ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของฮาลาลไทยในทุกมิติ ซึ่งเชื่อว่าไทยจะขยับไปเป็น Top 5 ผู้ส่งออกในไม่ช้า คำถามคือไทยจะร่วมกันขับเคลื่อนไปสู่ศูนย์กลางฮาลาลโลกภายในกี่ปี”