รัฐ(จะ)ส่งเสริมการออม แต่หนี้ครัวเรือนพุ่ง
ขณะนี้มีเด็กเกิดใหม่เพียงปีละราว 5.18 แสนคน แต่มีผู้สูงอายุมากถึง 13 ล้านคน คิดเป็น 20 % ของประชากรทั้งประเทศ สถานการณ์นี้จะทำให้ปี 2576 ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด
การดูแลเกื้อหนุนผู้สูงอายุจะเป็นภาระที่เพิ่มขึ้นของประชากรวัยทำงาน และผู้ที่อยู่ในวัยใกล้เป็นผู้สูงอายุ(50-59ปี) ก็มีภาวะในการเกื้อหนุนผู้สูงอายุรุ่นพ่อแม่(80ปีขึ้นไป)เพิ่มขึ้น
โดยปัจจุบันวัยทำงาน 3 คน ดูแลผู้สูงอายุ 1 คน คาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะลดลงเหลือเพียง 2 คนต่อผู้สูงอายุ 1 คน ปัจจุบันมีแรงงานนอกระบบจำนวน 19.6 ล้านคน คิดเป็น 52 % ของกำลังแรงงานทั้งหมดอยู่ในภาคเกษตรกว่าครึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ในกองทุนประกันสังคมเพื่อการชราภาพและสงเคราะห์ ส่วนหนึ่งไม่มีการออมที่เพียงพอต่อการยังชีพในวัยหลังเกษียณ
ข้อมูลจากงานวิจัย “การจัดการทรัพย์สินทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุไทย” พบว่า 47 % มีการออมไม่เพียงพอ มากกว่า 40% มีรายได้หรือทรัพย์สินไม่เพียงพอในการดำรงชีพหลังเกษียณ 1 ใน 3 เป็น “ผู้มีรายได้น้อย” หรือ “คนจน” และมากกว่า 40 % มีเงินเก็บน้อยกว่า 50,000 บาท และมากกว่าครึ่งยังมีรายจ่ายเพื่อดูแลลูกหลานหรือญาติ ผู้สูงอายุกว่า 52.88 % ยังคงมีภาระหนี้สินที่ต้องจ่าย การสร้างการออมสำหรับรับสังคมผู้สูงอายุจึงเป็นมาตรการที่สำคัญ
รายงานพิเศษเรื่อง “หลักประกันรายได้ของผู้สูงอายุ : เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ของ “สภาพัฒน์” ระบุว่าเงินออมที่พึงมีหลังจากอายุ 60 ปีไปแล้วในเขตเมืองต้องมีอย่างน้อย 4 ล้านบาท เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้ต่อไปหลังเกษียณ ส่วนในชนบท ต้องมีประมาณ 2.8 ล้านบาท ในอนาคตจะมีคน 14 ล้านคน ที่จะอยู่ได้หรือมีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุเท่านั้น จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้คนกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบการออมมากขึ้นในช่วงที่อยู่ในวัยแรงงาน เป็นทางออกที่ดีในยามที่ครัวเรือนไทยมีภาระหนี้สินเฉลี่ย 606,378 บาทครัวเรือนเพิ่มสูงสุดตั้งแต่มีการสำรวจในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นหนี้นอกระบบ 69.9% ภาระการผ่อนชำระอยู่ที่ 18,787 บาทต่อเดือน ซึ่งในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่ 71.6% เคยผิดนัดชำระหนี้
การที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้แรงงานในระบบออมโดยสมัครใจผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ลงทุนผ่านสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ หวยเกษียณ / กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (ThaiESG) กองทุนรวมวายุรักษ์ 1 รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการบัญชีการออมส่วนบุคคลเพื่อการเกษียณ หรือ Individual Retirement Account (IRA) ซึ่งจะเป็นบัญชีการออมรายบุคคลที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาว ที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น การยกเว้นภาษีดอกเบี้ย หรือกำไรจากการลงทุน ทั้งหมดทั้งปวงก็เพื่อเป็นการเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างไม่เป็นภาระงบประมาณในอนาคตนั่นเอง จะทำได้หรือไม่งานนี้พิสูจน์ฝีมือรัฐบาล