ท่าเรือ”อัลเฆซิราส”ประเทศสเปน ทางเลือกใหม่ ส่งออกไทยเจาะตลาดอียู-แอฟริกา

ท่าเรือ”อัลเฆซิราส”ประเทศสเปน  ทางเลือกใหม่ ส่งออกไทยเจาะตลาดอียู-แอฟริกา

ทูตพาณิชย์ กรุงมาดริด เผย” ท่าเรืออัลเฆซิราส” ประเทศสเปน ได้รับเลือกเป็นท่าเรือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุโรป ติดอันดับ10 ของโลกท่าเรือที่ดีที่สุด ชี้ เหมาะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ประกอบการไทย เด่นทั้งตำแหน่งที่ตั้ง นโยบาย จุดยุทธศาสตร์เชื่อมทวีปยุโรปและแอฟริกา

KEY

POINTS

Key Point

  • ธนาคารโลกและ Standard & Poor จัดอันดับ “ท่าเรืออัลเฆซิราส"อยู่ที่อันดับ 10 ของโลก และอันดับสูงสุดของยุโรป
  • ท่าเรือ "ท่าเรืออัลเฆซิราส"เป็นท่าเรือพาณิชย์ที่หนาแน่นที่สุดในสเปน
  • ขีดความสามารถในการจัดการสินค้าอยู่ที่ 5.5 ล้าน TEUs อนาคตจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้าน TEUs
  • จุดยุทธศาสตร์เชื่อมทวีปยุโรปและแอฟริกา ห่างจากชายฝั่งแอฟริกาเพียง 14 กิโลเมตร
  • ทางเลือกใหม่ด้านโลจิตติกส์ทางทะเลของไทย ด้วยข้อเด่นด้านตำแหน่งที่ตั้ง นโยบาย โครงสร้างพื้นที่ที่จะเข้ามารองรับและเชื่อมโยงทางบกเพื่อเจาะเข้าสู่ตลาดยุโรปกลาง

เว็ปไซต์จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ   ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน  รายงานว่า  ธนาคารโลกและ Standard & Poor เผยผลการประเมินประสิทธิภาพที่เปรียบเทียบได้ตามเวลาเรือในพอร์ต (CPPI) ล่าสุด ระบุ"ท่าเรืออัลเฆซิราส  (Algeciras) "  ยังคงเป็นท่าเรือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในยุโรป โดยในการจัดอันดับล่าสุด ท่าเรือ Algeciras อยู่ที่อันดับ 10 ของโลก และอันดับสูงสุดของยุโรป

รายงาน ดัชนีประสิทธิภาพพอร์ตคอนเทนเนอร์ปี หรือ CPPI ได้รับการเผยแพร่เป็นประจำทุกปีโดย World Bank และ S&P Global Market Intelligence ตั้งแต่ปี 2020 โดยใช้ตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน เวลาตอบสนองของเรือ และความเร็วในการขนถ่ายสินค้า และอื่นๆ ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้ง ท่าเรือ Algeciras ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตารางการจัดหมวดหมู่ของยุโรปมาโดยตลอด

"ท่าเรืออัลเฆซิราส"  เป็นท่าเรือพาณิชย์ที่หนาแน่นที่สุดในสเปน และเป็นอันดับ 4 ของยุโรป รองจาก Rotterdam Antwerp Hamburg มีข้อได้เปรียบด้านภูมิประเทศที่เป็นอ่าวปิด ลมสงบ และทะเลลึก รองรับเรือขนาดใหญ่ทั้งเชิงพาณิชย์และผู้โดยสารได้ อีกทั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมทวีปยุโรปและแอฟริกา ห่างจากชายฝั่งแอฟริกาเพียง 14 กิโลเมตร

ทำให้เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญสำหรับยุโรปตอนใต้ แอฟริกา และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อีกทั้งยังอยู่ในช่องแคบยิบรอลตาร์ ซึ่งทำให้ท่าเรืออัลเฆซิราส  มีความสำคัญอย่างมากในเครือข่ายการขนส่งทางเรือระดับโลก

 

ด้านประสิทธิภาพธนาคารโลกได้จัดอันดับท่าเรือแห่งนี้อยู่ในลำดับที่ 10 จากทั่วโลก โดยเป็นลำดับที่ 1 ของยุโรป Algeciras เป็นศูนย์กลางหลักสำหรับพันธมิตรการเดินเรือที่สำคัญ เช่น 2M Alliance, Ocean Alliance และ THE Alliance ท่าเรือยังมีการเชื่อมต่อโดยตรงกับสายการเดินเรือ 23 สาย ให้บริการ 142 เส้นทางปกติ และเชื่อมต่อกับ 200 ท่าเรือใน 70 ประเทศทั่วโลก เป็นจุดตัดในแผนเครือข่ายโลจิสติกส์ TEN-T ที่สำคัญ 2 สายของสหภาพยุโรป คือ เมดิเตอเรเนียน และ แอตแลนติก

ปัจจุบันขีดความสามารถในการจัดการสินค้าอยู่ที่ 5.5 ล้าน TEUs และมีแผนที่จะขยายขีดความสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 ล้าน TEUs ในอนาคต ท่าเรือแห่งนี้มีเทอร์มินัลหลักสองแห่ง ได้แก่ TTI Algeciras และ APM Terminals Algeciras ซึ่งทั้งสองแห่งนี้รวมกันแล้วมีปลั๊กไฟสำหรับตู้เย็น (Reefer Plug) จำนวน 5,376 จุด สำหรับจ่ายไฟให้กับตู้คอนเทนเนอร์ประเภทควบคุมอุณหภูมิได้ (Reefer Container) ที่ใช้ในการขนส่งสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหารแช่แข็ง ผลไม้ เนื้อสัตว์ และยา เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าในขณะรอการขนส่งหรือตอนจัดการขนส่งที่ท่าเรือ

การมีปลั๊กไฟสำหรับตู้เย็นในจำนวนมากนี้ทำให้ท่าเรืออัลเฆซิราส สามารถรองรับการขนส่งสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้สินค้าคงคุณภาพดีและปลอดภัยตลอดกระบวนการขนส่ง

จุดเด่นอีกประการหนึ่งของท่าเรือ คือ เทคโนโลยีและแผนการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อตอบสนองแนวโน้มกฎระเบียบใหม่ของโลก โดยมีแผนปฏิบัติการที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจอย่างครบถ้วน กลยุทธ์นวัตกรรมของท่าเรือเน้นการใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาดด้วยการดำเนินงานแบบ Synchromodal

 

แนวคิดในการจัดการโลจิสติกส์ที่มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูง เน้นการผสานรวมการขนส่งหลายรูปแบบ เช่น ทางรถไฟ, รถบรรทุก, เรือ หรือเครื่องบิน เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยมีการเลือกใช้วิธีการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดแบบเรียลไทม์ตามความต้องการของสินค้า ระยะทาง ความเร็วที่ต้องการ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และการใช้พลังงานสีเขียว เพื่อเปลี่ยนแปลงท่าเรือ Algeciras ให้เป็นท่าเรือแห่งอนาคตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองเป็นท่าเรือฮาลาลตั้งแต่ปี 256

นางสาวพัชรมณฑน์ ตระกูลทิวากร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมาดริด ระบุว่า  เมื่อเดือนก.ค. 2567 สคต. ณ กรุงมาดริดได้เข้าพบหารือนาย Aike Escobar Alpañez ผู้บริหารท่าเรือสายการตลาด รวมทั้งเยี่ยมชมพื้นที่ให้บริการส่วนต่างๆ เพื่อสำรวจศักยภาพในการขยายการค้าระหว่างประเทศของไทยผ่านท่าเรือแห่งนี้

ในการประชุม สคต. ได้รับฟังข้อมูลและสอบถามถึงการดำเนินงานซึ่งพบว่าท่าเรือ Algeciras มีประสิทธิภาพการบริหารจัดการดี มีแผนในอนาคตที่น่าสนใจ ปัจจุบันยังมีสินค้าไทยเข้าทางนี้ไม่มากนัก จึงเหมาะจะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ประกอบการไทยด้วยข้อเด่นด้านตำแหน่งที่ตั้ง นโยบายในอนาคต โครงสร้างพื้นที่ที่จะเข้ามารองรับและเชื่อมโยงทางบกเพื่อเจาะเข้าสู่ตลาดยุโรปกลาง ไม่ว่าจะทางรถหรือราง (โครงการ TEN T)

 นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตการขนส่งทางทะเล (Red Sea crisis) ท่าเรือยังมีบทบาทสำคัญรองรับสายเรือและเป็นจุดพักหรือถ่ายลำต่อไปยังยุโรปอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสานสัมพันธ์กับท่าเรือแห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางบริหารความเสี่ยงแก่ผู้ส่งออกไทย

“ ในปี 2568 สคต. วางแผนจะเชิญเครือข่ายด้านโลจิสติกส์จากท่าเรืออัลเฆซิราสเข้าร่วมเยี่ยมชมหรือจัดเวทีสัมมนาให้ข้อมูลในงาน TILOG Logistics ณ กรุงเทพมหานคร เพื่อขยายความร่วมมือและขยายมูลค่าการค้าระหว่างกันต่อไป”

อนึ่ง ในปี พ.ศ. 2566 สินค้าสำคัญที่นำเข้าจากประเทศไทย ได้แก่ กรดคาร์บอกซิลิก ยางรถยนต์ใหม่ ข้าว เส้นใยแก้ว ฯลฯ ขณะที่สินค้าส่งออกจากท่าเรืออัลเฆซิราส  ไปยังประเทศไทยได้แก่ กระดาษหรือกระดาษแข็งสำหรับการรีไซเคิล เศษอะลูมิเนียม และผลิตภัณฑ์อาหาร เป็นต้น สินค้าที่ท่าเรืออัลเฆซิราส  มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ สินค้าที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เสื้อผ้าและผ้าผืน เคมีภัณฑ์ อาหาร เป็นต้น