เช็คราคา"วัสดุก่อสร้าง"หลังน้ำท่วมบวกปัจจัยนอกประเทศกดดัน

เช็คราคา"วัสดุก่อสร้าง"หลังน้ำท่วมบวกปัจจัยนอกประเทศกดดัน

หลังน้ำท่วมคลี่คลายลง สถานการณ์ก็ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่น้ำท่วมได้ทิ้งภาระสำคัญไว้ คือการฟื้นฟูตั้งแต่สภาพจิตใจ ไปจนถึงที่อยู่อาศัย รายได้ ซึ่งน้ำท่วมกำลังเพิ่มดีมานด์สินค้าวัสดุก่อสร้างซึ่งสถานการณ์ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

ข้อมูลจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระบุว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย 

ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค. - 16 ก.ย. 2567 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 28 จังหวัดได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวม 133 อำเภอ 608 ตำบล 3,219 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 133,082ครัวเรือนนั้น

ดัชนีราคาก.ย.แนวโน้มสูงขึ้น

ปัจจุบับหลายพื้นที่สถานการณ์น้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการจากนี้คือการฟื้นฟูในเบื้องต้นที่ที่อยู่อาศัยข้อมูลจากสำนักงานนโยบยและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์  ระบุถึง ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนก.ย. ปี 2567 มีแนวโน้มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 จากความผันผวนของ ราคาน้้ามัน และราคาพลังงานในตลาดโลกจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ส่งผลต่อต้นทุนวัตถุดิบ และต้นทุนการผลิต อยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 

การระงับการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานผลิตเหล็กกล้าของประเทศจีน เพื่อควบคุมอุปทานเหล็ก ส่วนเกินสูงจากปัญหาวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีน ทำให้ราคาเหล็กในประเทศและในตลาดโลก มีความผันผวนสูง ส่งผลให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือนก.ย. ปี 2567 มีแนวโน้มสูงขึ้น 

อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ท้าให้มีการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้อุปสงค์ ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ชะลอตัว อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จะต้องมีการติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การประเมินดังกล่าวไม่ได้รวมปัจจัยสถานการณ์น้ำท่วมไว้ 

ส.ค.ปัจจัยพลังงานดันราคาเพิ่ม

สำหรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนส.ค. 2567 เท่ากับ 113.3 เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. 2566 (YoY) สูงขึ้น 0.7% โดยมีสาเหตุจากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดไม้และ ผลิตภัณฑ์ไม้ หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต หมวดวัสดุฉาบผิว หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และ หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เป็นผลจากราคาวัตถุดิบ ราคาน้ำมัน และราคาพลังงาน (ถ่านหิน) ปรับสูงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง 

ขณะที่หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงจาก อุปทานเหล็กส่วนเกินสูงจากจีนกดดันราคาเหล็กในตลาดโลก (เอเชีย จีน) หมวดซีเมนต์ หมวดกระเบื้อง และหมวดสุขภัณฑ์ ลดลงจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และก้าลังซื้อ ภายในประเทศลดลงจากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน สะท้อนได้จาก การเปิดตัวใหม่ในโครงการอาคารชุดลดลง รวมทั้ง NPL ที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) ดัชนีราคาสูงขึ้น 0.2%

“โดยดัชนีราคาสูงขึ้นเกือบ ทุกหมวด ได้แก่ หมวดซีเมนต์ หมวดวัสดุฉาบผิว และหมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นตาม ราคาพลังงาน (ถ่านหิน ปิโตรเลียม) ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีตสูงขึ้นตามราคาปูนซีเมนต์ หมวดสุขภัณฑ์ หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นจากการสิ้นสุดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส้าหรับหมวดที่ดัชนีราคาลดลง ได้แก่ หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์จากเหล็ก ตามราคาเหล็กใน ตลาดโลก (จีน เอเชีย) ที่ลดลงตามราคาวัตถุดิบ (บิลเล็ต เศษเหล็ก) ขณะที่หมวดไม้และ ผลิตภัณฑ์ไม้ และหมวดกระเบื้อง ดัชนีราคาไม่เปลี่ยนแปลง”

สำหรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ซื้อขายใน 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา และนครศรีธรรมราช ครอบคลุมหมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก กระเบื้อง วัสดุฉาบผิว สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา และวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ มีจำนวนรายการสินค้าทั้งหมด 136 รายการ

พิชัยคุมเข้มราคาสินค้าหลังน้ำท่วม

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังส่งถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำท่วมในโครงการ “มอบพาณิชย์ห่วงใย สู้ภัยน้ำท่วม” แจกจ่ายเครื่องอุปโภค-บริโภคให้ประชาชน จำนวน 50,959 ชิ้น ว่า หลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์เตรียมออกมาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด จำหน่ายสินค้าราคาถูกให้ประชาชน เช่น อุปกรณ์ซ่อมแซม โดยประเมินความเสียหาย

ส่วนกระแสข่าวฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน เช่น ไม้กวาด เบื้องต้นปลัดกระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบแล้ว พบว่า ข้อเท็จจริงราคาขาย 290 บาท ปรับขึ้นราคาเป็น 299 บาท ซึ่งถือว่าไม่ได้แพง เนื่องจากต้นทุน 290 บาทแล้ว ประกาศขาย 299 บาท

พร้อมกำชับร้านค้าทั่วประเทศห้ามกักตุนสินค้า ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา ไม่ปิดป้ายราคา ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดให้รีบแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ พาณิชย์ทุกจังหวัด

นอกจากนั้นยังได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ดูแลสินค้าช่วงน้ำท่วม “ห้ามขาด-ห้ามแพง” จึงขอฝากเตือนพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด ถ้าหากพบเห็นจังหวัดไหนมีสินค้าขาด-สินค้าแพง ต้องรับผิดชอบ ถ้าบกพร่องในหน้าที่จะให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์จัดการ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์สามารถดูแลจัดการปริมาณสินค้าได้

“กระทรวงพาณิชย์ ยืนยัน ถ้ามีกระแสออกมาเยอะ เราก็ตรวจสอบ บางครั้งก็โพสต์แกล้งๆ กัน โพสต์เพื่อด่าโน้น ด่านี่ จริงๆ แล้วเราตรวจสอบทุกอัน ถ้ามีกระแสแรงขึ้น และคิดว่ามีความเป็นจริงเราจะส่งคนไปดู ถ้ามันไม่จริงเราจะออกมาชี้แจง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจตลาดวัสดุก่อสร้างเบื้องต้นยังไม่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ขณะที่ซัพพลายสินค้ายังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมจึงไม่มีผลให้ต้องปรับราคาแม้ว่าความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็ตาม 

เช็คราคา\"วัสดุก่อสร้าง\"หลังน้ำท่วมบวกปัจจัยนอกประเทศกดดัน