“สุชาติ”ชู”ข้าวไทย” สร้างความมั่นคงทางอาหารของโลก

“สุชาติ”ชู”ข้าวไทย” สร้างความมั่นคงทางอาหารของโลก

“สุชาติ ชมกลิ่น” เปิดงาน Thai Rice Networking Forum 202  ผลักดันแนวคิด “ข้าวไทย สู่อาหารโลก” ชี้ ปัญหาสภาพภูมิอากาศส่งต่อปริมาณและคุณภาพข้าว  ย้ำ อนาคตข้าวไทยสดใส พร้อมเร่งพัฒนาข้าวเป็นสินค้าพรีเมียม  เผย แนวโน้มส่งออกข้าวไทยปี 67 สูงเกินคาดการณ์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดงาน“Thai Rice Networking Forum 2024”  ว่า งานดังกล่าวเป็นการจัดงานข้าวในระดับนานาชาติของไทยครั้งแรก เพื่อตอกย้ำศักยภาพของไทยในฐานะผู้นำด้านการผลิตข้าวคุณภาพที่พร้อมส่งออกข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสมดุลท่ามกลางวิกฤตความมั่นคงด้านอาหารของโลก ตลอดจนยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่พันธมิตรและคู่ค้าข้าวจากทั่วโลกต่อนโยบายในการพัฒนาข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทย รวมถึงนโยบายในการส่งเสริมข้าวพรีเมียมไทย และ Soft Power อาหารไทยในเวทีโลกอีก

ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้านทั้งความเปลี่ยนแปลงทางด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม สภาวะเศรษฐกิจ และความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อการค้าและการลงทุนทั่วโลก และกำรลงทุนทั่วโลกตลอดจนส่งผลกระทบ ทำให้เกิดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนในระบบห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการกระจายอาหารไปสู่ผู้บริโภค นำไปสู่ความกังวลด้านความมั่นคงทางอาหาร  

จากวิกฤตดังกล่าวพบว่า ความต้องการบริโภคข้าวโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตข้าวของโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากข้างเป็นสินค้าที่มีผลต่อความมั่นคงทางอาหารสามารถใช้บริโภคทดแทนธัญญพืชได้หลายชนิด

“สุชาติ”ชู”ข้าวไทย” สร้างความมั่นคงทางอาหารของโลก

ทั้งนี้ การส่งออกข้าวไทยในปีนี้อยู่ในทิศทางที่ดี โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2567 (เดือนมกราคม - กรกฎาคม) ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 5.68 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21.97  % และมีมูลค่า 3,703 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 50.97%   เป็นผลมาจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับอินเดียยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าว จึงคาดการณ์ว่าในปี 2567 ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 8.20 ล้านตัน และถึงแม้ว่าประเทศไทย จะไม่ใช่ประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลกในเชิงปริมาณ

โดยไทยมีปริมาณผลผลิตข้าวเป็นอันดับที่ 6 ของโลก แต่จุดแข็งของไทย คือ สามารถผลิตข้าวที่มีคุณภาพดี และมีศักยภาพในการบริหารจัดการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทย สามารถส่งออกข้าวให้ลูกค้าทั่วโลกได้อย่างต่อเนื่อง เป็นแหล่งความมั่นทางอาหารให้กับนานาประเทศ สมกับที่ได้รับคำกล่าวขานว่า  เป็น “ครัวของโลก” พร้อมส่งมอบสินค้าอาหารที่มีคุณภาพมาตรฐานให้กับผู้บริโภคทั่วโลก

ทั้งนี้ประเทศไทยจำเป็นจะต้องประชาสัมพันธ์ข้าวไทย เพื่อผลักดันการส่งออก แต่ละปีไทยส่งออกข้าวปีเฉลี่ยละกว่า 8 ล้านตัน สร้างรายได้กว่า   1 แสนล้านบาท และการส่งออกข้าวไทยในปี 2567 นี้มั่นใจว่าไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ถึง 9 ล้านตัน เพราะผลผลิตของเราในปีนี้เพิ่มขึ้น และอนาคตกระทรวงพาณิชย์มองว่าสินค้าเกษตรของไทยจะต้องพัฒนาให้เป็นสินค้าพรีเมี่ยม เราจะต้องค้าขายไม่เน้นปริมาณ แต่เพื่อคุณภาพที่จะส่งเสริมรายได้ให้กับเกษตรกร

สำหรับกรณีปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดที่กระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตร ต้องยอมรับว่ามีผลกระทบและสร้างความเสียหาย แต่อนาคตรัฐบาลพร้อมที่จะหามาตรการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดโซนนิ่งในการปลูกพืชเกษตรที่ให้ความเหมาะสม โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมจะให้ข้อมูลด้านการตลาด เพื่อผลักดันเพื่อการส่งออกข้าวไทยโต ส่วนความเสียหายพื้นที่นาข้าวอาจจะกระทบผลผลิตและมีผลต่อการส่งออกบ้าง แต่น้อยมาก เพราะเราส่งออกตุนมามากแล้ว และไม่กระทบเป้าส่งออกข้าวไทยทั้งปี 2567

นายรณณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  กล่าวว่า  สินค้าโภคภัณฑ์ที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาคมโลกโดยเฉพาะประเทศที่นิยมบริโภคข้าวจากภูมิภาคเอเชีย “ข้าว” ถือเป็นสินค้าที่หลายท่านนึกถึงเป็นลำดับแรก โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปริมาณความต้องการบริโภคข้าวและการเพาะปลูกข้าวทั่วโลกในภาพรวมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีประเทศผู้นำเข้าข้าวสำคัญกระจายทั่วทุกภูมิภาคของโลก อาทิ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนามอิรัก ไนจีเรีย และมาเลเซีย

โดยประเทศผู้ส่งออกข้าวสำคัญ ได้แก่ อินเดีย ไทย เวียดนามปากีสถาน และสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี ปัจจุบันหลายประเทศต่างเผชิญกับความเสี่ยงและประสบปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติธรรมชาติซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรรวมถึงผลผลิตข้าวทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพทำให้รัฐบาลหลายประเทศมุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาการเพาะปลูกข้าวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารเพิ่มขึ้น จึงอาจกล่าวได้ว่าข้าวถือเป็นธัญพืชสำคัญแห่งความมั่นคงทางอาหารในยุคปัจจุบัน

สำหรับประเทศไทย ข้าวไม่เพียงแต่เป็นอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อการบริโภคภายในประเทศ แต่ยังเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยสร้างรายได้หล่อเลี้ยงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกว่า 4.7 ล้านครัวเรือน คิดเป็นกว่า 70%ของจำนวนครัวเรือนเกษตรกรทั้งหมด จำนวนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรในภาคเกษตรทั้งหมดของไทยพึ่งพารายได้จากการเพาะปลูกข้าวเป็นหลักโดยประเทศไทยมีผลผลิตข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก

ทั้งนี้งาน “Thai Rice Networking Forum 2024” ภายใต้แนวคิด “Local RICE…Global FOOD ข้าวไทยสู่อาหารโลก”ระหว่างวันที่ 17 -19 กันยายน 2567 ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ผู้อยู่ในวงการค้าข้าวโลกได้มาพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ มุมมอง ตลอดจนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการค้าข้าวโลก

รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างโอกาสให้ผู้นำเข้าและผู้ส่งออกข้าวได้พบปะเจรจาธุรกิจการค้า ตลอดจนสร้างเครือข่ายกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ทั้งยังเป็นโอกาสในการแสดงศักยภาพและสร้างความเชื่อมั่นของไทย ในฐานะผู้นำด้านการผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพดีของโลกซึ่งการจัดงานในครั้งมีเป้าหมายร่วมกันที่ต้องการพัฒนาให้อุตสาหกรรมข้าวเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนเพื่อสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวนาไทย

รวมถึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีการค้าข้าวโลก เพื่อให้ไทยคงความเป็นผู้นำในการผลิตและส่งออกข้าวคุณภาพ และเป็นส่วนสำคัญในการช่วยสร้างความมั่นคง ทางอาหารของโลกต่อไป