'ขนส่ง' คุมรถบัส 'ชินบุตรทัวร์' หลังหนีตรวจสอบ เร่งถอดถังแก๊สติดตั้งเกิน
“กรมการขนส่งทางบก” ประสานตำรวจคุมรถบัสเครือข่าย “ชินบุตรทัวร์” รวม 5 คัน หลังเบี้ยวตรวจสอบสภาพรถ พบนำเข้าอู่ซ่อมเอกชนในจังหวัดนครราชสีมา และอยู่ระหว่างถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากแจ้งจดทะเบียน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากกรณี"ไฟไหม้รถบัส"นำนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี มาทัศนศึกษา ซึ่งประสบอุบัติเหตุเกิดเพลิงไหม้ ณ บริเวณใกล้ทางแยกต่างระดับอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก โดยกรมการขนส่งทางบกได้เรียกผู้ประกอบการรายดังกล่าวให้นำรถที่อยู่ในความครอบครองและเครือข่ายจำนวน 5 คัน เข้ามาตรวจสภาพรถทั้งหมด ณ สำนักงานขนส่งลพบุรี
อย่างไรก็ดี ปรากฎว่าผู้ประกอบการรายดังกล่าวกลับมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมนำรถเข้ารับการตรวจสภาพรถตามคำสั่งโดยเร็ว กรมการขนส่งทางบก จึงได้ตรวจสอบพิกัด GPS พบว่ารถโดยสารทั้งหมดของผู้ประกอบการรายดังกล่าวและเครือข่าย อยู่ที่อู่ซ่อมรถเอกชน ในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมาลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ พบว่ารถโดยสารทั้ง 5 คันดังกล่าว อยู่ระหว่างการถอดถังแก๊สที่ติดตั้งเกินจากที่แจ้งจดทะเบียนไว้ออกจากรถ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนาที่จะปกปิดความผิดจากดัดแปลงรถโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดัดแปลงระบบก๊าซ ซึ่งส่งผลให้รถโดยสารมีน้ำหนักเกินสมรรถนะ อีกทั้งมีความเสี่ยงอาจเกิดการรั่วไหลของก๊าซจากการติดตั้งระบบก๊าซที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรหรือหน่วยงานที่กรมการขนส่งทางบกรับรอง
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อรวบรวมส่งพนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติในการดำเนินคดีต่อไป อีกทั้งกรมการขนส่งทางบกจะเรียกรถโดยสารสาธารณะทั้งประจำทางและไม่ประจำทาง ที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดจำนวน 13,426 คัน เข้ารับการตรวจสภาพรถอย่างเข้มข้นภายใน 60 วัน
สำหรับอุบัติเหตุเกิดเพลิงไหม้รถโดยสารไม่ประจำทาง พบว่าเป็นรถโดยสารรถโดยสารชั้นเดียว ปรับอากาศ จดทะเบียนเลข 30-0423 สิงห์บุรี โดยข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบก จดทะเบียนผู้ประกอบการขนส่ง ภายใต้ชื่อ “นางสาวปาณิสรา ชินบุตร” มีเลขใบอนุญาตประกอบการขนส่ง สห.1/2564 ซึ่งจะสิ้นอายุวันที่ 7 มี.ค. 2569
โดยรถโดยสารคันดังกล่าวจดทะเบียนครั้งแรกเมื่อ 19 ก.พ.2513 หรือมีอายุการจดทะเบียนมาแล้ว 54 ปี ก่อนจะจดทะเบียนใหม่ 26 ต.ค.2561 เนื่องจากมีการดัดแปลงโครงคัสซี เปลี่ยนขนาดสัดส่วน - ชนิดรถ ISUZU เลขตัวรถ 2105472 และมีชนิดเครื่องยนต์ BENZ
ขณะที่ “ชินบุตรทัวร์” มีบริษัท ชินบุตร เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเจ้าของ ซึ่งมีการก่อตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 19 ก.พ.2556 รวมเป็นเวลากว่า 11 ปีที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมีทุนจดทะเบียนปัจจุบันอยู่ที่ 5 ล้านบาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทมีลักษณะเป็นธุรกิจครอบครัว มีนายจิรภัทร ชินบุตร ประธานหอการค้าจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ด้วยสัดส่วน 60% ตามมาด้วยนางอรวรรณ ชินบุตร ที่ถือหุ้น 40% นอกจากนี้ยังมีสมาชิกครอบครัวอื่นๆ คือ นางสาวกนิษฐา ชินบุตร และนางสาวปาณิสรา ชินบุตร ร่วมถือหุ้นคนละ 1 หุ้น
ด้านการบริหารงาน บริษัทมีกรรมการ 3 คน ได้แก่
- นายจิรภัทร ชินบุตร
- นางอรวรรณ ชินบุตร
- นางสาวปาณิสรา ชินบุตร
โดยนายจิรภัทรและนางอรวรรณเป็นผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ขณะที่ผลประกอบการในปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 13,322,417.32 บาท มีรายจ่ายรวม 10,881,797.32 บาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 2,101,782.94 บาท