ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน พุ่ง 2 ไตรมาสติด
สนค.เปิดผลสำรวจดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาส 3 ปี 67 พบ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4 % ชี้ผลจากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น ดอกเบี้ยสูง ส่งออกโต ภาคการผลิตขยายตัว คาดไตรมาส 4 ขึ้นต่อเนื่อง
KEY
POINTS
Key Point
- ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาส เพิ่ม 2.4 %
- ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้น ดอกเบี้ยสูง ส่งออกโต ดันดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนพุ่งต่อเนื่อง
- สนค.คาดไตรมาส 4 จะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาส 3 ปี 67 พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 โดยดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน โครงสร้างแบ่งตามกิจกรรมการผลิต ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้น 2.4 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าบริการขนส่งในทุกหมวดสินค้า
โดยเฉพาะหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 2.7 % อาทิ ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ สิ่งทอ อุปกรณ์ไฟฟ้า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย) ตามด้วยหมวดผลิตภัณฑ์จากเหมือง 0.9 % เช่น ถ่านหินและลิกไนต์ ปิโตรเลียมดิบและก๊าซธรรมชาติ สินแร่โลหะ)และหมวดผลิตภัณฑ์เกษตรกรรมและการประมง 0.8 % (กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร)
ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน โครงสร้างแบ่งตามประเภทรถ ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เพิ่มขึ้น1.0 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 โดยประเภทรถที่ดัชนีค่าบริการขนส่งเพิ่มขึ้น อาทิ รถตู้บรรทุก 2.1% รถบรรทุกเฉพาะกิจ 1.9 % รถบรรทุกวัสดุอันตราย 1.8 % รถกระบะบรรทุก 1.3 % และรถบรรทุกของเหลว 0.7 % ขณะที่ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าโดยรถพ่วง ปรับลดลง 0.1 % ส่วนดัชนีราคาค่าบริการขนส่งรถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาวไม่เปลี่ยนแปลง
“พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ “ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวถึงสาเหตุที่ที่ทำให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมาว่า ยังคงเป็นเรื่องของต้นทุนที่ยังทรงตัวในระดับสูง ทั้งราคาน้ำมันดีเซล อัตราค่าจ้างที่เกิดจากการขาดแคลนแรงงาน และอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ความต้องการและปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น
ดังนั้นผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องปรับค่าบริการสูงขึ้น เพื่อให้กิจการสามารถดำเนินการต่อได้ แม้ว่าจะเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงกับผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับผลกระทบจากอุทกภัยที่ทำให้เส้นทางการคมนาคมขนส่งเสียหาย การผลิตบางสาขาและการค้าในพื้นที่หยุดชะงัก ในไตรมาสที่ 3 นี้ ยังไม่ส่งผลต่อดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนอย่างชัดเจน ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 4 ปี 2567 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าผู้ประกอบการได้ทยอยปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุนมาบ้างแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีปัจจัยหนุนสำคัญ อาทิ
1.ราคาน้ำมันดีเซล (มีมาตรการตรึงราคาไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ถึง 31 ตุลาคม 2567) อัตราค่าจ้าง และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังอยู่ระดับสูง
2.ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยว การส่งออกสินค้า และการผลิตในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงช่วงปลายปีเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรหลายชนิด จะส่งผลให้ความต้องการการขนส่งเพิ่มขึ้น
3. ผลกระทบจากอุทกภัยที่ส่งผลต่อเส้นทางการขนส่งสินค้า อาจจะทำให้ค่าบริการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น
4.ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญเช่นจีน ประกอบกับประเทศในกลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกยังคงลดกำลังการผลิตและชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงของผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งในและประต่างประเทศ และมาตรการการช่วยเหลือด้านพลังงานของภาครัฐ รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาท อาจจะส่งผลให้ดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนนไม่เป็นไปตามที่คาดได้