สปีชแรก วรวงศ์ รามางกูร ทายาท ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ มือดีศก.ไทย ในงาน BITKUB SUMMIT

สปีชแรก วรวงศ์ รามางกูร ทายาท ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ มือดีศก.ไทย ในงาน BITKUB SUMMIT

เปิดสปีชแรก "วรวงศ์ รามางกูร" ทายาท ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจของหลายรัฐบาล ในงาน BITKUB SUMMIT เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา

การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ “เศรษฐกิจดิจิทัล” ถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของรัฐบาลหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยเพราะนอกจากจะช่วยสร้างความสะดวกสบายให้ทั้งภาครัฐและเอกชนแล้วยังเป็นระบบที่ว่ากันว่ามีความโปร่งใสและตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆ ได้ซึ่งถือเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

ดังนั้น เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา นายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษเป็นครั้งแรกใน “BITKUB SUMMIT GALA NIGHT”  ภายในงาน BITKUB SUMMIT เกี่ยวกับแผนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ 

นายวรวงศ์กล่าวว่า "การส่งออกของเรายังได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภาคการท่องเที่ยวแม้จะฟื้นตัวแต่ยังไม่ถึงระดับก่อนโควิด-19"

อย่างไรก็ตาม "รัฐบาลมีวิสัยทัศน์ชัดเจนและแน่วแน่ในการนำประเทศเข้าสู่ยุคดิจิทัลพร้อมนโยบายสนับสนุนการเปลี่ยนผ่าน"

สปีชแรก วรวงศ์ รามางกูร ทายาท ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ มือดีศก.ไทย ในงาน BITKUB SUMMIT

ในส่วนของแผนการดำเนินงานหลัก นายวรวงศ์ ระบุว่า รัฐบาลพยายามมุ่งเน้นดำเนินการ 3 ด้านสำคัญ ได้แก่

  1. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล
  2. การส่งเสริมการใช้เซ็นทรัลแบงก์ดิจิทัลเคอร์เรนซี (ซีบีดีซี)
  3. การสร้างระบบนิเวศสำหรับธุรกิจบล็อกเชน

นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนการดำเนินการในระยะถัดไป โดยระบุว่า "รัฐบาลจะลงทุนในเทคโนโลยีการเงินขั้นสูง พัฒนามาตรฐานและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมดิจิทัล และสร้างแรงจูงใจทางด้านภาษีและการสนับสนุนเงินทุน

ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นายวรวงศ์ในฐานะผู้แทนรัฐบาลยืนยันว่า "การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเป็นลักษณะสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยตั้งเป้าหมายให้ประชาชนเข้าถึงเครือข่าย 5G ภายในสิ้นปีนี้"

สปีชแรก วรวงศ์ รามางกูร ทายาท ดร.โกร่ง-วีรพงษ์ มือดีศก.ไทย ในงาน BITKUB SUMMIT

ส่วนด้านการเงินดิจิทัล มีการเน้นย้ำว่ารัฐบาลพยายามพัฒนา "ซีบีดีซีเพื่อเพิ่มความรวดเร็วและโปร่งใสในการทำธุรกรรมทางการเงิน" พร้อมทั้งยังกล่าวถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยระบุว่า "การเปลี่ยนผ่านเศรษฐกิจดิจิทัลจะสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน"

ในท้ายที่สุด นายวรวงศ์ ระบุว่า "รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นในการผลักดันประเทศให้เป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน"

รู้จัก ‘วรวงศ์ รามางกูร’ ลูกชาย ‘ดร.โด่ง-วีรพงษ์’

ในวงการธุรกิจและการเมืองไทย มีชื่อหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก นั่นคือ วรวงศ์ รามางกูร วัย 37 ปี ทายาทของตระกูลรามางกูร

วรวงศ์เป็นบุตรชายของ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร หรือที่รู้จักกันในนาม "ดร.โกร่ง" อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจของหลายรัฐบาล ผู้ซึ่งได้ล่วงลับไปแล้ว ความใกล้ชิดของครอบครัวกับวงการการเมืองทำให้วรวงศ์มีความเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน

แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่มีชื่อเสียงทางการเมือง แต่วรวงศ์เลือกที่จะสร้างเส้นทางของตัวเองในวงการธุรกิจ โดยจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้เขายังสอบผ่านเนติบัณฑิตได้ในช่วงปี 2562

หลังจบการศึกษา วรวงศ์ได้ก้าวเข้าสู่วงการธุรกิจอย่างเต็มตัว โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบริษัท โมเดิร์น บิสิเนส คอนซัลติ้ง จำกัด ซึ่งให้บริการด้านระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี

ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ในปี 2562 วรวงศ์ได้ขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจร้านอาหาร โดยเปิดแบรนด์ "Shabu Smile - ชาบู สไมล์" และขยายสาขาไปทั่วประเทศ

ด้วยภูมิหลังทางการเมือง การศึกษาที่โดดเด่น รวมทั้งความสำเร็จในวงการธุรกิจ วรวงศ์ รามางกูร จึงเป็นหนึ่งในเจเนอเรชั่นใหม่ที่น่าจับตามอง ก่อนที่ในปัจจุบันจะมารับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์