วิกฤติตะวันออกกลางส่อแววคลี่คลาย น้ำมัน WTI ปิดลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐ และอิสราเอลพยายามผลักดันให้มีการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา
ในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.67) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 70.19 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 74.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังคงพยายามผลักดันให้เกิดการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังใกล้เข้ามา และจะมีผลต่อนโยบายตะวันออกกลางของสหรัฐ
รายงานล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้พบปะกับประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ในการประชุมสุดยอดของกลุ่ม BRICS ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีปูติน กล่าวว่า รัสเซียสนับสนุนให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซา โดยรัสเซียมีความสัมพันธ์อันดีต่อทั้งอิสราเอล และปาเลสไตน์
ทางด้านอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวในการประชุมสุดยอดของกลุ่ม BRICS เช่นกัน เรียกร้องให้มีการสร้างสันติภาพในยูเครน รวมทั้งเรียกร้องให้มีการหยุดยิง และปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซา และยุติความขัดแย้งในเลบานอน
การพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบ ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 426 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค.67 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 270,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สู่ระดับ 213.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์ และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 113.8 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์