เขื่อนป่าสักฯ ปรับเพิ่มการระบายน้ำ หลังน้ำไหลลงอ่างฯ มากขึ้น
กรมชลประทาน เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หลังแนวโน้มน้ำไหลลงเขื่อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยืนยันไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน ปริมาณน้ำสูง ไม่เกิน 30-40 เซนติเมตร
กรมชลประทาน เตรียมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี หลังจากที่มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนมากขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อน 907 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 94% ของความจุอ่างฯ เพื่อควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ดังนี้
🔺 วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 06.00 น. จะเพิ่มการระบายจากอัตรา 35 ลบ.ม./วินาที เป็น 50 ลบ.ม/วินาที
🔺 วันที่ 26 ตุลาคม 2567 เวลา 06.00 น. จะเพิ่มการระบายจากอัตรา 50 ลบ.ม./วินาที เป็น 70 ลบ.ม/วินาที
ซึ่งการระบายน้ำดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 30-40 เซนติเมตร โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจะยังอยู่ในลำน้ำและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน อย่างไรก็ตาม หากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กรมชลประทานจะแจ้งข้อมูลให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ด้านศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน แจ้งว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา บริเวณ จ.นครสวรรค์ กำแพงเพชร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำท่าสะสมในลำน้ำสาขาและแม่น้ำสายหลักเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดย ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองจังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านในอัตรา 1,820 ลบ.ม./วินาที และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น กรมชลประทาน รับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาในอัตราที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ชุมชนเนื่องจากยังคงมีฝนตกในระยะนี้ พร้อมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันได ในอัตรา 1,550 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนาตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา(แม่น้ำน้อย)ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 10 ถึง 20 เซนติเมตร
ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามนโยบายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำและการแจ้งเตือนจากหน่วยงานทางราชการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงมีฝนในระยะนี้ อาจส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป