ทอท.เปิดประมูล ธ.ค.นี้ หาผู้ประกอบการรายที่ 3 'บริการภาคพื้นสุวรรณภูมิ'
ทอท.เตรียมประมูล ธ.ค.นี้ หาผู้ประกอบการรายที่ 3 "บริการภาคพื้น" ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มั่นใจได้ตัวผู้ประกอบการรายใหม่ให้บริการไม่เกิน มิ.ย.2568 หวังรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเติบโต ระบุเงื่อนไขพร้อมเปิดกว้างเอกชนไทยร่วมทุนต่างชาติยื่นข้อเสนอ
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงความคืบหน้าประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 และผู้ให้บริการคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยระบุว่า ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างรออนุมัติเอกสารประกวดราคา (TOR) ทั้งสองโครงการดังกล่าว ซึ่งจะดำเนินการไปพร้อมกัน และคาดว่าภายในเดือน มิ.ย.2568 จะได้ตัวผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาดำเนินการ
สำหรับแผนดำเนินการเบื้องต้น คาดว่าจะได้รับการอนุมัติ TOR ภายในเดือน พ.ย.นี้ หลังจากนั้นเปิดประกวดราคาทันทีภายในต้นเดือน ธ.ค.2567 และคาดว่าภายในเดือน ม.ค.2568 จะพิจารณาข้อเสนอของเอกชนแล้วเสร็จ ก่อนจะลงนามสัญญาในช่วงเดือน มี.ค.2568 และคาดว่าเอกชนที่ได้รับสิทธิ์จะเข้ามาดำเนินการภายในเดือน มิ.ย.2568
นายกีรติ กล่าวด้วยว่า การเปิดประมูลจัดหาผู้ประกอบการรายใหม่ทั้งบริการภาคพื้น และดำเนินงานกิจการคลังสินค้า (คาร์โก้) ทอท.จะเปิดกว้างให้เอกชนทั้งไทยและต่างชาติ โดยมีเงื่อนไขกำหนดให้เอกชนต่างชาติต้องร่วมทุนกับเอกชนไทยในการเข้าประมูลโครงการ โดยเอกชนไทยจะต้องถือสัดส่วนมากกว่า 51% เพื่อเป็นการเปิดกว้างให้เกิดการแข่งขัน และสามารถคัดเลือกเอกชนที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์งานที่หลากหลายกลุ่มมากขึ้น
“ข้อกำหนดในการคัดเลือกเอกชนร่วมประมูลครั้งนี้ ทอท.จะเปิดกว้างสำหรับเอกชนไทยที่ไม่มีประสบการณ์ เช่น งานภาคพื้น ก็สามารถเข้าร่วมประมูลได้ โดยต้องเป็นลีดเดอร์ถือสัดส่วน 51% ขึ้นไป และสามารถร่วมทุนกับเอกชนต่างชาติที่มีประสบการณ์งานบริการภาคพื้นเข้ามาร่วมประมูล ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้มีเอกชนหลายรายเข้าร่วมประมูลได้ เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าเอกชนในไทยที่มีประสบการณ์บริการภาคพื้นมีน้อยราย”
ทั้งนี้ ปัจจุบันส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีผู้ให้บริการภาคพื้น จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งได้รับสิทธิพิเศษในฐานะเป็นสายการบินแห่งชาติ 2. บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (Bangkok Flight Services : BFS) โดยในช่วงหลังอุตสาหกรรมการบินกลับมาให้บริการและเติบโต สายการบินที่ให้บริการในสนามบินได้ร้องเรียนถึงบริการภาคพื้นที่ล่าช้า ทำให้ ทอท.ต้องเปิดประมูลหาเอกชนรายที่ 3 เข้ามาดำเนินการ
นายกีรติ ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลลงทุนขยายขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนของโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันออก (East Expansion) วงเงินราว 9 พันล้านบาท ปัจจุบันได้มีการออกแบบรายละเอียดเสร็จแล้ว คาดจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาการปรับปรุงแบบภายในเดือน ธ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะเปิดประมูลในเดือน ม.ค.2568 โดยโครงการนี้จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปีแล้วเสร็จในปี 2570 ช่วยเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้ ทอท.ยังอยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิฉบับใหม่ ระยะ 10 ปี (2568 - 2578) เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค มีเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปี ตามนโยบายของรัฐบาล ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมจ้างบริษัทที่ปรึกษา และคาดว่าจะศึกษาแล้วเสร็จในเดือน เม.ย.2568 จากนั้นจะเป็นการออกแบบรายละเอียด ซึ่งต้องใช้เวลาในการออกแบบประมาณ 1 ปี หรือกลางปี 2569 แล้วเสร็จ
สำหรับรายละเอียดของแผนแม่บทฯ เบื้องต้น ทอท.จะใช้วงเงินลงทุนรวมกว่า 1.59 แสนล้านบาท เป้าหมายรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 150 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับได้ 60 ล้านคนต่อปี โดยภายใต้แผนแม่บทดังกล่าว นอกจากจะเร่งลงทุน East Expansion แล้ว ทอท.จะดำเนินโครงการส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารทางด้านทิศตะวันตก (West Expansion) วงเงินราว 9 พันล้านบาท
พร้อมกับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Expansion) วงเงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างทางวิ่ง (รันเวย์) เส้นที่ 4 วงเงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยอาคารผู้โดยสาร South Expansion จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปีครึ่ง และจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2574 ส่วนรันเวย์ 4 จะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 4 ปี เปิดใช้งานได้ในปี 2573