ศักยภาพธุรกิจ ‘อาเซียน’ สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย

ศักยภาพธุรกิจ ‘อาเซียน’  สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทย

“อัทธ์ พิศาลวานิช” ชี้ “ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ไฟฟ้า –ธุรกิจอาหาร ผลไม้ –ธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม” 3 กลุ่มธุรกิจดาวรุ่งอาเซียน สร้่างโอกาสผู้ประกอบการไทย

“อาเซียน” เป็นภูมิภาคที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้มาก โดยมีทรัพยากรที่หลากหลายและมีตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากอาเซียนจะเป็นผู้ส่งออกสินค้าสำคัญของโลก แต่อาเซียนยังเป็นตลาดที่มีศัยกภาพในหลายธุรกิจ

นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาบริษัท อินเทลลิเจนท์ รีเสิร์ช คอนซัลแตนท์ (ไออาร์ซี) จำกัด กล่าวกับ”กรุงเทพธุรกิจ” ถึงเทรนด์ธุรกิจในอาเซียน ว่า ธุรกิจและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่คาดว่าน่าจะเป็นธุรกิจดาวรุ่งของอาเซียน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ประกอบด้วย 

1.ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและไฟฟ้า เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แบตเตอรี่ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ โดยธุรกิจเหล่านี้ต้องใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมและวัตถุดิบจากต่างประเทศเพื่อทำธุรกิจในประเทศที่มีความพร้อมด้านการลงทุน

โดยเฉพาะธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ที่ประเทศอินโดนีเซียมีวัตถุดิบเป็นของตนเอง ขณะที่ประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียนจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น เพื่อมาประกอบเป็น EV ซึ่งกลุ่มธุรกิจกลุ่มนี้เริ่มโดดเด่นมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพื่อตอบรับความต้องการการของผู้บริโภคในเรื่องของพลังงานสะอาดและการรักษาสิ่งแวดล้อม

2.กลุ่มธุรกิจอาหาร ผลไม้สดและแปรรูป รวมไปถึงอาหารอนาคต (Future Food) และธุรกิจเกี่ยวกับความงามและสุขภาพ โดยธุรกิจอาหารอนาคต เริ่มเป็นเทรนด์แรงในกลุ่มที่ดูแลสุขภาพมีการนำเข้าและผลิตอาหารแห่งอนาคตในหลายประเทศของอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนามมีการเติบโตสูงมาก 

ขณะที่สิงคโปร์ มาเลเซียและไทยมีความโดดเด่นในเรื่องอาหารอนาคต แต่มีประเด็นนวัตกรรมของสินค้าอาหารทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร การออกแบบดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เป็นสตาร์อัพเข้ามาผลิตสินค้าพวกนี้มากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจด้านอาหารมีการเติบโตสูงตามไปด้วย ที่สำคัญธุรกิจเหล่านี้ก็จะเน้นเรื่องของเทรนด์สิ่งแวดล้อมไปด้วย

สำหรับไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่งฐานการผลิตสำคัญของอาเซียนในด้านของกลุ่มธุรกิจอาหาร ผลไม้ เกษตรแปรรูปอาหารอนาคต เพราะไทยมีวัตถุดิบที่ตอบสนองต่อการทำธุรกิจ ทั้งขายในประเทศและส่งออกหลากหลาย ธุรกิจเหล่านี้จึงเริ่มเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นสตาร์ทอัพ 

หากมองธุรกิจอาหารอนาคตยอมรับว่าไทยเป็นประเทศที่มีวัตถุดิบในการป้อนสู่ธุรกิจอาหารแห่งอนาคตเช่นเดียวกับประเทศลาวและกัมพูชา แต่ไทยขาดความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยี รวมทั้งงานวิจัยด้านอาหารแห่งอนาคต ขณะที่สิงคโปร์มีเงินลงทุนและองค์ความรู้ทางนวัตกรรมแต่ขาดพื้นที่เพาะปลูก

“แม้ว่าอาหารแห่งอนาคตจะเป็นธุรกิจดาวรุ่งแต่หลายประเทศในอาเซียนขาดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิต ทำให้อาเซียนได้เปรียบเพียงแค่มีวัตถุดิบ พื้นที่ พืชพันธุ์ สภาพอากาศ ดังนั้นต้องพัฒนาเพื่อให้ธุรกิจอาหารในอาเซียนเติบโตแข็งแกร่ง”นายอัทธ์ กล่าว

สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลไม้สดและแปรรูปถือว่าอาเซียนโดดเด่น โดยมาเลเซียแม้มีผลไม้น้อยแต่เก่งในการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร ส่วนอินโดนีเซียมีผลไม้มากแต่ไม่เก่งการแปรรูป ดังนั้นหากว่าพัฒนาธุรกิจผลไม้และแปรรูปจะสร้างรายได้ให้อาเซียนได้มาก

3.ธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยมลพิษได้หรือลดคาร์บอน ซึ่งถือเป็นอีกธุรกิจที่น่าจับตามองในอาเซียน เนื่องเทรนด์รักษ์โลกกำลังมาแรงก 

ประกอบกับประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของกลุ่มอาเซียนหลายประเทศตื่นตัวเรื่องนี้และให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะยุโรป สหรัฐและญี่ปุ่น ที่เริ่มออกกฎหมายหรือมาตรการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมาบังคับใช้กับสินค้าที่นำเข้าไปในประเทศ ซึ่งส่งผลให้กลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาด ธุรกิจที่รักษาสิ่งแวดล้อม มีโอกาสเติบโตสูงมาก

นายอัทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามธุรกิจที่ยังคงรูปแบบเดิมก็ยังเป็นธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตได้และไม่ควรมองข้าม เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบันก็เป็นธุรกิจดาวรุ่งอยู่แล้ว และยังคงเป็นต่อไปเนื่องจากมีความหลากหลายของสินค้า ซื้อขายผ่านทางออนไลน์ได้ทันที