‘แพทองธาร’ สั่งหน่วยงานเร่งเยียวยาน้ำท่วม เร่งชง ครม.คลอดมาตรการลงพื้นที่
"แพทองธาร" สั่งหน่วยงานราชการทุกส่วนเร่งชงมาตรการเยียวยา ฟื้นฟูอุทกภัยให้ ศปช.พิจารณาก่อนชง ครม.หวังออกชุดมาตรการช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยให้ได้รับความช่วยเหลือต่อเนื่องโดยเร็ว
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ส่งหนังสือถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงานเรื่องการเร่งเสนอมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบอุทกภัย
โดยระบุว่าตามที่สำนักเลขาธิการ ครม.ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ทุกหน่วยงานราชการทราบเกี่ยวกับเรื่อง การเสนอมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยไปแล้วนั้น ในคราวประชุมครม.เมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมานางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเสนอว่าให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐส่งเรื่องเกี่ยวกับมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เพื่อพิจารณาในภาพรวมโดยด่วน ก่อนนำเสนอต่อ ครม.ต่อไป
โดยขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายลง และกำลังอยู่ในช่วงการเยียวยาและฟื้นฟู จึงขอให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำมาตรการหรือแนวทางในการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว และเสนอไปยัง ศปช. โดยด่วนเพื่อรวบรวมและพิจารณากลั่นกรองให้เหมาะสม ไม่ซ้ำซ้อน และตอบสนองต่อสภาพปัญหาและความต้องการ ของผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน ก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดด้วย ซึ่ง ครม. พิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอต่อไป
ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้มีมาตรการในการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือพื้นที่ที่น้ำท่วมแบ่งเป็น 2 ส่วน กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่นำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และกรณีน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน ให้ได้รับในอัตราเหมาจ่ายอัตราเดียวที่ 9,000 บาทต่อครัวเรือน และต่อมาได้มีการอนุมัติค่าช่วยล้างดินโคลน รวมทั้งซากวัสดุต่าง ๆ ในที่อยู่อาศัยประชาชนซึ่งประสบอุทกภัยในอัตรา 10,000 บาทต่อหลัง
โดยให้กรมบัญชีกลาง อนุมัติให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ซึ่งประกาศเขตภัยพิบัติให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สามารถใช้เงินทดรองราชการจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยในแต่ละพื้นที่