“ น้องหมีเนย”แเบรนด์ไทยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ดันยอดขาย “ Luckin Coffee”จีน
ยอดขายผลิตภัณฑ์กาแฟ “ Luckin Coffee” ในจีนถล่มทลาย หลังจับมือ“น้องหมีเนย” เผย ยอดจำหน่ายผ่านแฟลตฟอร์ม Douyin ดีที่สุดของกาแฟ“ Luckin Coffee”ในปีนี้ สคต.หนานหนิง ชี้ กระแส “ น้องหมีเนย”เบรนด์ไทยเปิดช่องเบรนด์ไทยขยายเข้าสู่ตลาดจีน
KEY
POINTS
Key Point
- Luckin Coffee แบรนด์กาแฟชื่อดังของจีน จับมือกับ Butter Bear แบรนด์ขนมปังชื่อดังของไทย เปิดตัวจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟใหม่ 2 รายการ
- หลังเปิดจำหน่าย- 11 ต.ค.2567 กาแฟ “Little Butter Latte” บนแพลตฟอร์ม Douyin มากกว่า 1,000,000 จำหน่ายมากกว่า 700,000 ครั้ง ซึ่งเป็นยอดการจำหน่ายที่ดีที่สุดในปีสำหรับรายการผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Luckin Coffee
- ผลิตภัณฑ์ Luckin Coffee สามารถขยายส่วนแบ่งของตลาดมากขึ้นจากกระแสของ “น้องหมีเนย”
ชื่อ“น้องหมีเนย”น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ด้วยความน่ารัก สดใสของ”น้องหมีเนย” กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ถึงขนาดต้องนั่งเครื่องบินมาเพื่อต่อคิวถ่ายรูปกันเลย ซึ่ง“น้องหมีเนย”เป็นมาสคอตชื่อดังของร้านขนมปังไทย” Butter Bear” ถือเป็นมาสคอตยอดฮิตและถูกพูดถึงในเวลานี้ ทำรายได้ให้กับเจ้าของมหาศาลทั้งงานอีแว้นท์ โชว์ตัว และอีกมากมาย
ล่าสุด”แบรนด์ น้องหมีเนย” จับมือกับ Luckin Coffee แบรนด์กาแฟชื่อดังของจีนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟใหม่ จนขายดิบขายดีในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน
โดย เว็ปไซต์จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) เมืองหนานหนิง ประเทศจีน รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2567 Luckin Coffee แบรนด์กาแฟชื่อดังของจีน จับมือกับ Butter Bear แบรนด์ขนมปังชื่อดังของไทย เปิดตัวจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกาแฟใหม่สองรายการ ได้แก่ “Little Butter Latte” และ “Little Butter Americano” ที่ใส่วัตถุดิบเนยในกาแฟพร้อมแก้วลายน้องหมีเนย
รวมถึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลิตภัณฑ์กาแฟเนยกึ่งสำเร็จรูปที่สามารถให้ผู้บริโภคปรุงเองได้ที่บ้าน แก้วน้ำ ซองใส่นามบัตร แม่เหล็กติดตู้เย็น และสติ๊กเกอร์ ซึ่งได้นำความน่ารักของน้องหนีเนยเข้ากับผลิตภัณฑ์
ทำให้ผลิตภัณฑ์กาแฟสองรายการนี้เสมือนมีชีวิตชีวาและความน่ารักอบอุ่น ตั้งแต่การออกแบบลายแก้วกาแฟไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ทุกรายละเอียดนี้เผยให้เห็นความน่ารักและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งไม่เพียงแต่สะดุดตา แต่ยังทําให้ผู้คนรู้สึกถึงความเป็นเพื่อนและกําลังใจที่อบอุ่นจากน้องหมีเนย
ภายหลังการเปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจีนเป็นอย่างมาก โดยราคาจำหน่ายของ “Little Butter Latte” อยู่ที่แก้วละ 35 หยวน และ “Little Butter Americano” แก้วละ 32 หยวน แต่ราคาจำหน่ายโปรโมชั่นที่สั่งโดยผ่านแอปพลิเคชัน Douyin และ Meituan จะเหลือเพียงแค่แก้วละ 12.9 หยวน
จากวันที่เปิดตัวจำหน่ายถึงวันที่ 11 ต.ค.2567 ผลิตภัณฑ์ 2 รายการนี้ได้ผลจำหน่ายที่แพลตฟอร์ม Douyin มากกว่า 1,000,000 ครั้ง สำหรับ “Little Butter Latte” ได้รับผลจำหน่ายมากกว่า 700,000 ครั้ง ซึ่งเป็นยอดการจำหน่ายที่ดีที่สุดในปีสำหรับรายการผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Luckin Coffee
นอกจากนี้ รีวิวที่เกี่ยวกับ Luckin Coffee จับมือ Butter Bear ในแฮชแท็ก #LuckinxButterBear และในแพลตฟอร์ม Weibo มีมากกว่า 6,000,000 ครั้ง และแฮชแท็ก #LittleButterLatte มีมากกว่า 4,000,000 ครั้ง
Butter Bear เป็นแบรนด์ร้านขนมปังของไทย ซึ่งมี “น้องหมีเนย” เป็นมาสคอตชื่อดังของร้าน เนื่องจากมีความน่ารัก สดใสร่าเริง ทำให้แฟนคลับต่างใจละลาย จนกลายเป็นที่รักของผู้คนมากมาย ด้วยท่าทางการเดิน การโพสท่า การนั่ง และการสื่อสาร ผู้คนจึงรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวา และทำให้ผู้บริโภคจีนเผยความคิดเห็นในโซเซียลมีเดียว่า “Butter Bear เป็นตัวมาสคอตที่น่ารักที่สุดที่ได้รับจาก Luckin Coffee ในปีนี้
สคต. ณ เมืองหนานหนิง ให้ความเห็นว่า Luckin Coffee จับมือ Butter Bear จำหน่ายกาแฟรสชาติใหม่และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กระแสนิยมจากน้องหมีเนย ซึ่งทำให้มียอดขายถล่มทลายและประสบความสําเร็จเป็นอย่างมากในจีน
สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นซึ่งเป็นเป็นกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์กาแฟไม่ใช่แค่เพียงแค่เครื่องดื่มเท่านั้น แต่กลายเป็นการแสดงออกถึงทัศนคติของการที่ได้มีส่วนร่วมสนุก การผ่อนคลาย และร่วมสร้างสรรค์ผลงาน DIY
เนื่องด้วยชีวิตปัจจุบันผู้บริโภคที่ทำงานด้วยความเครียด ความวุ่นวายและความกดดัน แต่ไม่ลืมที่จะค้นหาความสุข การผ่อนคลาย และการแบ่งปันประสบการณ์ที่ดีผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งสื่อโซเชียลเหล่านี้ส่งผลให้เป็นกระแสนิยมอย่างกว้างขวาง และส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Luckin Coffee สามารถขยายส่วนแบ่งของตลาดมากขึ้น รวมถึงทำให้ผู้บริโภคชาวจีนรับรู้แบรนด์ Butter Bear ของไทยมากขึ้นอีกด้วย
“ความสำเร็จจากความร่วมมือระหว่างสองแบรนด์ในครั้งนี้ จึงเป็นตัวอย่างที่ดีในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดจีนผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ท้องถิ่น “สคต.หนานหนิง ระบุ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการที่ประสงค์ร่วมมือกับแบรนด์จีนเพื่อบุกตลาดจีน ควรต้องศึกษาถึงกระแสนิยม พฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด พร้อมการออกแบบและสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างประสบการณ์พิเศษ เพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในการขยายตลาดและโอกาสความร่วมมือกับแบรนด์ท้องถิ่นต่อไป