พาณิชย์เร่งจัดสมดุลน้ำมันปาล์ม หลังราคาพุ่งเล็งถกพลังงานเบรกB7

พาณิชย์เร่งจัดสมดุลน้ำมันปาล์ม  หลังราคาพุ่งเล็งถกพลังงานเบรกB7

พาณิชย์ เร่งจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มหลังราคาพุ่งช่วงผลผลิตขาดแคลนเหตุแล้งต้นปี เตรียมถก“พลังงาน” เบรกสูตรB7 ดึงเหลือ 5% คุมเข้มลักลอบนำเข้าห่วงทำตลาดป่วน ด้านผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือง ยันไม่ขึ้นราคา ยันปริมาณเพียงพอ

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมอาจจะพิจารณาหารือกับกระทรวงพลังงานในเรื่องของการพิจารณาการผลิตน้ำมันจากสูตร B7 เป็น B5 ในช่วงที่ปริมาณผลปาล์มมีไม่มาก และจะติดตามให้มีความสมดุลระหว่างผลผลิตและราคาต่อไป

ล่าสุด กรมการค้าภายในได้เชิญสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองเพื่อติดตามสถานการณ์และกำกับดูแลสินค้าน้ำมันพืชบรรจุขวดอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง โดยสมาคมฯ ยืนยันยังไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลือง เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชนผู้บริโภคในช่วงที่น้ำมันปาล์มขวดมีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองจะสามารถใช้ทดแทนน้ำมันปาล์มขวดได้สำหรับการบริโภคในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการไม่ขึ้นราคาดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มขวดได้ในระดับหนึ่ง               

นอกจากที่กรมได้ประชุมร่วมกับสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองไม่ให้ขึ้นราคาน้ำมันถั่วเหลืองแล้ว อยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคมาบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองเป็นทางเลือกทดแทนในครัวเรือน เนื่องจากตอนนี้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองไม่สูงหากเทียบกับน้ำมันปาล์ม โดยคิดว่าจะสามารถมีจำหน่ายเพิ่มเติมได้ประมาณวันละ 150,000 ขวด

ยังสต๊อกน้ำมันปาล์มมีเพียงพอ

 “กรมจะติดตามปริมาณสต๊อกตลอดระยะนี้ เพื่อการบริหารจัดการปริมาณในท้องตลาดให้มีความเหมาะสม และ จะมีการหารือร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรเรื่องการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มต่อไป”

 ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน สั่งการพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดในห้างค้าส่ง-ค้าปลีก และห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ สืบเนื่องจาก ห้างค้าส่ง/ค้าปลีก ได้ให้ความร่วมมือตรึงราคาน้ำมันพืชให้นานที่สุดและพร้อมจัดช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

จากการสำรวจสถานการณ์การจำหน่ายน้ำมันปาล์ม ในห้างค้าปลีกค้าส่ง พบว่า สินค้ามีเพียงพอ ไม่มีขาด ส่วนใหญ่ปริมาณสต็อกราคาเก่าเฉลี่ยอยู่ได้ ประมาณ 7-10 วันบางห้างมีสต็อกราคาเก่าสามารถอยู่ได้ประมาณ 15-30 วัน และราคาน้ำมันปาล์มขวดในห้างค้าส่ง-ค้าปลีกและห้างท้องถิ่น ณ วันที่ 1 พ.ย. 2567 อยู่ที่เฉลี่ย 43-50 บาท/ขวดลิตร เช่น นครราชสีมา ราคา 46-49 บาท ศรีสะเกษ 43-48 บาท ชัยนาท 47 บาท เชียงใหม่ 44-48 บาท 

ในส่วนของตลาดสดทั่วไป ราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวดอาจสูงกว่าในห้างทั่วไป เนื่องจากผู้ค้าบางรายอาจซื้อน้ำมันปาล์มขวดจากห้างค้าส่ง-ค้าปลีก มาจำหน่ายอีกต่อหนึ่งหรือสองต่อ ซึ่งได้ให้สำนักงานพาณิชย์ทุกจังหวัดติดตามราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิดเช่นกัน โดยจากการลงพื้นที่ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ณ วันที่ 1 พ.ย. 2567 อยู่ที่เฉลี่ย 45-55 บาท/ขวดลิตร เช่น เชียงใหม่ 47-50 บาท กาฬสินธ์ 48-55 บาท สุรินทร์ 50 บาท แพร่ 46-49 บาท ลำพูน 45-50 บาท

จับมือโรงสกัด-กลั่นงดการส่งออก

ในส่วนการส่งออก กรมการค้าภายในได้ร่วมกับสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม ร่วมมืองดการส่งออกน้ำมันปาล์มรวมถึงบริหารจัดการสต็อกน้ำมันปาล์มให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคตลอดระยะเวลา 2 เดือนนี้ จึงขอเรียนแจ้งว่าประชาชนไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อน้ำมันปาล์มกักตุนเพราะผลผลิตปาล์มน้ำมันจะเข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ ม.ค.2568 เป็นต้นไป และคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์มจะประชุมติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างใกล้ชิด

ทุกสัปดาห์ โดยปัจจุบันสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบตามระบบฐานข้อมูลมิเตอร์ปาล์ม อยู่ที่ 0.22 ล้านตันซึ่งยังอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อความต้องการใช้

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา การจำหน่ายน้ำมันดีเซลในประเทศจะเหลือเพียง 2 ชนิด คือ น้ำมันดีเซล B7  หรือน้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 7% ในทุกลิตร  ซึ่งจะเป็นน้ำมันดีเซลหลักในการจำหน่าย และน้ำมันดีเซล B20 หรือน้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 20% ในทุกลิตร 

โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในปัจจุบันมีสัดส่วนผสมไบโอดีเซลอยู่ที่ 7% อยู่แล้ว โดยมีการใช้ไบโอดีเซลอยู่ที่ 4.33 ล้านลิตรต่อวัน และการใช้น้ำมันปาล์มอยู่ที่ 3.77 ล้านกิโลกรัมต่อวัน และคาดว่าในปี 2567 จะมีการใช้ไบโอดีเซล เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.66 ล้านลิตรต่อวัน และการใช้น้ำมันปาล์มจะอยู่ที่ 3.88 ล้านกิโลกรัมต่อวัน

ปี 68 ดีมานด์พุ่งเหตุอินโดนีเซียใช้ปี40

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) คาดว่าปี 2567 ผลผลิตปาล์มน้ำมันเดือนต.ค.จะมีประมาณ 1.113 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.200 ล้านตัน ลดลงจากผลผลิตปาล์มทะลาย 1.291 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.233 ล้านตันของเดือนกันยายน คิดเป็นร้อยละ 13.79 และร้อยละ 14.16 ตามลำดับ เนื่องจากผลกระทบภัยแล้งต้นปี และผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย 

สำหรับราคาราคาผลปาล์มทะลาย สัปดาห์นี้(สุดท้ายต.ค.) เฉลี่ย กิโลกรัม(กก.)ละ 7.75 บาท สูงขึ้นจากกก.ละ 7.32 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือเพิ่มขึ้น 5.87%  ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ(กรุงเทพ) สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 44.53 บาท สูงขึ้นจากกก. 39.72 บาท ในกับสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือเพิ่มขึ้น 12.11%

    สถานการณ์ในต่างอินโดนีเซียประกาศแผนประเทศที่จะเริ่มใช้น้ำมันไบโอดีเซล B40 ในเดือนม.ค. 2568 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันไบโอดีเซลจะเพิ่มขึ้นเป็น 16 ล้านกิโลลิตรในปี 2568 การปรับเพิ่มอัตราผสมน้ำมันปาล์มนี้จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันปาล์มในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น

พาณิชย์เร่งจัดสมดุลน้ำมันปาล์ม  หลังราคาพุ่งเล็งถกพลังงานเบรกB7