จับตา “โกโก้”  สินค้าดาวรุ่งไทยในตลาดโลก

จับตา “โกโก้”  สินค้าดาวรุ่งไทยในตลาดโลก

สนค. เผย พื้นที่ปลูกโกโก้สำคัญของโลกเจอเอลนีโญ ทำปริมาณลด ราคาพุ่ง  ส่งผลดีโกโก้ไทยส่งออกเพิ่ม  9 เดือนแรกปี 2567 ไทยส่งออกโกโก้และของปรุงแต่งที่ทำจากโกโก้ เป็นมูลค่า 74 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น16.4 %

KEY

POINTS

Key Point

  • คาดว่าปี 2565 - 2573 ตลาดช็อกโกแลตทั่วโลก จะเติบโตในอัตราเฉลี่ย  4.4 % ต่อปี
  • เอลนีโญทำให้เกิดภาวะภัยแล้งในพื้นที่ปลูกโกโก้ ส่งผลให้ผลผลิตโกโก้ของโลกลดลง
  • เดือนต.ค. 2567 ราคาโกโก้ในตลาดโลกอยู่ที่ 6.6 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 83.3 %
  • 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกโกโก้และของปรุงแต่งที่ทำจากโกโก้ เป็นมูลค่า 74 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น16.4 %

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์การค้าสินค้าโกโก้และช็อกโกแลตของโลกและไทย  จากข้อมูลจากศูนย์ส่งเสริมการนำเข้าจากประเทศกำลังพัฒนา (Centre for the Promotion of Imports from Developing Countries (CBI)) ของสหภาพยุโรป ระบุว่าปัจจุบันตลาดโกโก้และช็อกโกแลตกำลังเติบโต โดยในปี 2566 ตลาดเมล็ดโกโก้ทั่วโลกมีมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตกว่า 22,000  ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2571 หรือเติบโตในอัตราเฉลี่ย  7 %  ต่อปี สำหรับตลาดช็อกโกแลตทั่วโลก คาดว่าปี 2565 - 2573 จะเติบโตในอัตราเฉลี่ย  4.4 % ต่อปี

ข้อมูลองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ FAO ระบุว่า การผลิตโกโก้ ปี 2565 ประเทศผู้ผลิตโกโก้ 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่  โกตติวัวร์  37.9 %  ของปริมาณผลผลิตโกโก้ของโลก   กานา 18.8%   อินโดนีเซีย   11.3 %เอกวาดอร์  5.7%  และ   แคเมอรูน  5.1 %  ส่วนไทยมีปริมาณการผลิต 1,256 ตัน คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.02  %

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2566 ถึงกลางปี 2567 เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญทำให้เกิดภาวะภัยแล้งในพื้นที่ปลูกโกโก้ ส่งผลให้ผลผลิตโกโก้ของโลกลดลง และราคาโกโก้ในตลาดโลกได้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนต.ค. 2567 ราคาโกโก้ในตลาดโลกอยู่ที่ 6.6 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 83.3 % จากปีก่อนหน้า

 

ในปี 2566 ประเทศผู้ส่งออกเมล็ดโกโก้ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่  โกตดิวัวร์ มูลค่า 3,329 ล้านดอลลาร์หรือ 33.7 % ของมูลค่า การส่งออกของโลก   เอกวาดอร์ 1,172 ล้านดอลลาร์  11.9 %   กานา 1,107 ล้านดอลลาร์  11.2%   แคเมอรูน 752 ล้านดอลลาร์  7.6 % และ  เบลเยียม 692 ล้านดอลลาร์ 7 %  

ขณะที่ไทย มีมูลค่าการส่งออก 0.12 ล้านดอลลาร์ เป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 68 ของโลก และประเทศผู้นำเข้าเมล็ดโกโก้ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่  เนเธอร์แลนด์ 2,184 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น20.1 ของมูลค่าการนำเข้าของโลก  มาเลเซีย 1,494 ล้านดอลลาร์  เยอรมนี 1,338 ล้านดอลลาร์ เบลเยียม 977 ล้านดอลลาร์ และสหรัฐอเมริกา 804 ล้านดอลลาร์ สำหรับไทย มีมูลค่าการนำเข้า 0.02 ล้านดอลลาร์เป็นผู้นำเข้าอันดับที่ 90 ของโลก

โดย ในปี 2566 ไทยส่งออกโกโก้และของปรุงแต่งที่ทำจากโกโก้ เป็นมูลค่า 87 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) ไทยส่งออกโกโก้และของปรุงแต่งที่ทำจากโกโก้ เป็นมูลค่า 74 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น16.4 % จากปีก่อนหน้า

ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรกของไทย ได้แก่

1. ญี่ปุ่น 22 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 42.2%   

2. จีน 9 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 40.3 %

3. เมียนมา 6.2 ล้านดอลลาร์  ขยายตัว 19.4 %  

4.มาเลเซีย 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว 6.1 %  

5. อินเดีย 4 ล้านดอลลาร์ หดตัว  9.4 %

 นอกจากนี้ ยังมีตลาดศักยภาพอื่น ๆ ที่ขยายตัวดี ได้แก่ แคนาดา ขยายตัว 392 %  สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  90.7% สหรัฐอเมริกา  46.3 %  อินโดนีเซีย   33.8 %  และรัสเซีย  20.2 %

สำหรับปี 2566 ไทยมีผลผลิตโกโก้ 3,360 ตัน ขยายตัว 167.6 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (1,256 ตัน) เนื่องจากมีพื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง และระนอง เป็นต้น

“พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์” ผอ.สนค. กล่าวว่า  แม้ปัจจุบันไทยจะยังมีมูลค่าการค้าสินค้าโกโก้และของปรุงแต่งไม่มาก แต่จากแนวโน้มความต้องการในตลาดโลกที่เพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มขยายตัวดี แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสให้สินค้าโกโก้ของไทยเติบโตอีกมาก เนื่องจากโกโก้สามารถแปรรูปได้หลายประเภทในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเป็นวัตถุดิบสำหรับกระบวนการผลิตเครื่องสำอางและยาบางชนิด

ดังนั้น ทิศทางการค้าสินค้าโกโก้ของไทย นอกจากจะรักษาตลาดส่งออกสำคัญที่มีอยู่แล้ว ควรหาแนวทางเจาะตลาดใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ รวมถึงต้องส่งเสริมการผลิตเมล็ดโกโก้ในประเทศให้มีคุณภาพ พร้อมทั้งสนับสนุนการแปรรูปโกโก้ให้เป็นสินค้าที่หลากหลาย และได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้บริโภค