ไทยบุกจีนดึงลงทุนรอบใหม่ สงครามการค้ากดดันย้ายฐาน

ไทยบุกจีนดึงลงทุนรอบใหม่ สงครามการค้ากดดันย้ายฐาน

“พิชัย ชุณหวชิร” นำทีมบีโอไอ เยือนเซี่ยงไฮ้ดึงลงทุน ในจังหวะบริษัทจีนกังวลผลการเลือกตั้งสหรัฐ พบบริษัทแบตเตอรี-อิเล็กทรอนิกส์ หนุนไทยฐานผลิตจีนในภูมิภาคอาเซียน เผย 9 เดือน จีนยื่นลงทุนไทย 1.14 แสนล้านบาท “ดับบลิวเอชเอ” เผยลูกค้าจีนเข้าไทยเพียบหนีสงครามการค้า

การลงทุนจากจีนยังคงมีทิศทางขยายตัว โดยปี 2566 มีโครงการจากจีนยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน 416 โครงการ มูลค่าการลงทุน 158,121 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ 

ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) จีนขอรับส่งเสริมการลงทุน 554 โครงการ เงินลงทุน 114,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ผลิตภัณฑ์โลหะและวัสดุ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 19-22 พ.ย.2567 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน นำคณะบีโอไอพร้อมด้วยภาคเอกชนเดินทางไปโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุน ณ นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน

ทั้งนี้ จะหารือนายกเทศมนตรีนครเซี่ยงไฮ้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และยกระดับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ในวาระครบรอบ 50 ปี แห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568 

พร้อมผนึกองค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของจีน (China Council for the Promotion of International Trade: CCPIT) และ Bank of China จัดงานสัมมนา “Thailand-China Investment Forum 2024” วันที่ 21 พ.ย.2567 ที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อแสดงศักยภาพและความพร้อมของไทยในการรองรับการลงทุนจากจีน 

รวมทั้งมีนักลงทุนจีนสนใจเข้าร่วม 500 คน จากหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน แบตเตอรี่ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ดิจิทัล เครื่องจักรและอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์โลหะและวัสดุ

สำหรับงานสัมมนา รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการบีโอไอ จะนำเสนอศักยภาพและโอกาสการลงทุนในไทย รวมทั้งสิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ นอกจากนี้ จะมีผู้บริหารจากภาคเอกชนร่วมบรรยายสำเร็จการทำธุรกิจในไทย เช่น Bank of China 

บริษัท Haier ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะรายใหญ่ มีการลงทุนในไทยรวมกว่า 16,000 ล้านบาท และบริษัท Westwell Technology ผู้นำด้าน AI และ Digital Green Logistics โดยได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้ยกระดับธุรกิจต่าง ๆ เช่น การพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะในประเทศไทย

‘แบงก์-นิคมไทย’ นำเสนอจุดเด่นลงทุน

อีกทั้ง ยังมีผู้แทนภาคเอกชนร่วมออกบูธให้ข้อมูลการลงทุนและโอกาสร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทไทย เช่น ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, WHA, TRA, TFD, โรจนะ, นิคมอุตสาหกรรม 304

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการบีโอไอ จะหารือนักลงทุนจีนเป็นรายบริษัท เพื่อเจรจาแผนการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น การผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และระบบกักเก็บพลังงาน โดยเน้นการผลิตแบตเตอรี่ในระดับเซลล์ 

ธุรกิจบริหารจัดการแบตเตอรี่ใช้แล้วเพื่อเตรียมรองรับปริมาณแบตเตอรี่ใช้แล้วที่จะเริ่มเข้าสู่ตลาด อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงและอุปกรณ์โทรคมนาคม การผลิตบรรจุภัณฑ์ชีวภาพจากวัตถุดิบทางการเกษตรในไทย

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพสูงในการเป็นฐานการผลิตหลักของจีนในภูมิภาคอาเซียน โดยช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีคลื่นการลงทุนลูกใหม่จากจีนมาไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) กิจการ Data Center และ Cloud Service

“การเยือนจีนเน้นดึงการลงทุนกลุ่มแบตเตอรี่และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต้นน้ำที่จะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ซัพพลายเชน และต่อยอดอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนแล้ว โดยจะชวนนักลงทุนจีนร่วมทุนผู้ประกอบการไทย รวมถึงเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนและวัตถุดิบจากผู้ผลิตในประเทศ” นายนฤตม์ กล่าว

“ลูกค้าจีน” เข้าไทยเพียบหนีสงครามการค้า

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า นักธุรกิจจีนทยอยหาพันธมิตรคนไทยร่วมลงทุน (JV) เพื่อลดสัดส่วนถือหุ้น ซึ่งเป็นโอกาสธุรกิจไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอีจะต่อยอดทั้งเทคโนโลยีและการเติบโตทางธุรกิจ 

รวมทั้งหากได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากภาครัฐจะสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้ไทย ดังนั้น หากจับโอกาสครั้งนี้ได้มองว่าใน 3 ปีข้างหน้า ไทยจะไม่เหมือนเดิม โดย WHA จะเป็นคนกลางทำหน้าที่ขายที่ดิน เช่าที่ดินและให้บริการ

ทั้งนี้ WHA กำลังเจรจากับลูกค้าต่างชาติกลุ่มธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์กว่า 10 ราย ที่ต้องการเข้ามาลงทุนทั้งซื้อที่และเช่าที่ เพิ่มเติม ภายหลังจากที่มีบิ๊กเนมเทคโนโลยีสหรัฐ เช่น กูเกิลเข้ามาลงทุนได้แล้ว คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ปีหน้า

ส่วนนโยบาย “โดนัลด์ ทรัมป์” หลังได้รับเลือกเป็นประธานธิบดีสหรัฐในเรื่องมาตรการที่จะออกมาทำให้ช่วงที่ผ่านมากลุ่มนักลงทุนจีนและไม่ใช่จีนไหลเข้ามาลงทุนในไทย ส่งผลให้ยอดขายที่ดินดีมาก โดยนิคมอุตสาหกรรมที่จะเปิดใหม่ปีหน้า 4,000 ไร่ มั่นใจว่าจะมีผู้จองเต็มอย่างรวดเร็วแน่นอน

“โอกาสของการเติบโตของนิคมอุตสาหกรรมจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังเดินหน้าซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนการขยายนิคมฯ โดยเฉลี่ยขยายปีละ 2,000 กว่าไร่”