‘รัฐบาล’ เตรียมอัดฉีด 1.1 หมื่นล้าน ลงกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ ไตรมาส 1 ปี 68

นายประเสริฐ จันทรรวงทองมั่นคง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยระหว่างการเปิดงาน “กองทุนหมู่บ้านมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” ว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติดำเนินการ มา 23 ปีสำคัญอบ่างยิ่งผ่านการปฏิวัติมา 2 ครั้ง ผ่านการบริหารประเทศโดยรัฐบาลที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนและไม่ได้บริหารโดยพรรคไทยรักไทย หรือพรรคเพื่อไทย  ทำให้ขาดไปบางช่วง และเป็น 23 ปีที่เผชิญภาวะรุมเร้ามากมาย  

“สิ่งที่ปรากฏวันนี้พรรคเพื่อไทยได้กลับมาบริหารประเทศ ด้วยระบบกองทุนหมู่บ้านที่เข้มแข็ง การแก้ปัญหาหนี้ประชาชน เราจะทำอย่างไรให้การดำเนินการกองทุนหมู่บ้านปลดหนี้ให้ประชาชน บริบทในหลายปีที่ผ่านมาทุนประเมินหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท

มีการเพิ่มเงินให้กองทุนสำเร็จ มีการแบ่งเกรดกองทุนที่ สำเร็จและที่ต้องแก้ไขปรับปรุง วันนี้รัฐบาลจะเดินหน้าภายใต้งบที่มี 11,000 ล้านบาท จะให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด อยากฝากคือ

1.การใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารกองทุนหมู่บ้าน จะทำให้เห็นจุดอ่อน จุดแข็ง สามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพของตัวเองได้  

2.การเชื่อมโยงกองทุนหมู่บ้านกับเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดีอีพร้อมสนับสนุนกิจกรรมให้มีความเข้มแข็ง“  

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) เปิดเผยว่า  ในไตรมาสแรกปี 2568 รัฐบาลจะการอัดฉีดเงินลงไปสู่หมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ 11,000 ล้านบาทเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

และต่อเนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาล ได้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจ่ายเงิน 10,000 บาทลงไปยังผู้มีบัตรสวัสดิการและผู้พิการเฟสแรกไปแล้ว และจะจ่ายเฟสที่สองให้ผู้สูงอายุก่อนเทศกาลตรุษจีน และเฟสที่สามให้กับคนที่ลงทะเบียนเงินดิจิทัล  

ทั้งนี้ วงเงิน 11,000 ล้านบาท เป็นเงินที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ( สทบ.)ได้รับการจัดสรรภายใต้พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สำหรับทุนหมุนเวียน วงเงิน 11,946 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นแหล่งเงินสำคัญที่จะใช้มาดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลต่อไป

โดยรัฐบาลตั้งใจจะให้ กองทุนหมู่บ้านฯ เป็นอีกหนึ่งกลไกที่จะใช้ฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยที่ผ่านมากองทุนหมู่บ้านฯ ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานและยังยืนหยัดอยู่ได้มานานกว่า 2 ทศวรรษ ดังนั้นเมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง จึงต้องการสานต่อกองทุนและฟื้นฟูให้เป็นที่พึ่งของประชาชน พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเติมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย