อนุกก.นอมินี ชงแผนปราบนอมินีต่อบอร์ดใหญ่ 9 ธ.ค.นี้  

อนุกก.นอมินี ชงแผนปราบนอมินีต่อบอร์ดใหญ่ 9 ธ.ค.นี้  

“นภินทร” ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันนอมินี เคาะแผนตรวจสอบ 5 ธุรกิจเสี่ยง ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง คลังสินค้า และซื้อขายที่ดินเพื่อการเกษตร พร้อมตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ใ เตรียมชงแผนให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา 9 ธ.ค.นี้ 

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (นอมินี) ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าการจัดทำแผนทำงานระยะสั้น กลาง และยาว หลังจากที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 10 หน่วยงาน ไปร่วมกันทำงานในการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวน

โดยได้ข้อสรุปที่จะพุ่งเป้าการตรวจสอบใน 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ การขนส่ง คลังสินค้า และซื้อขายสินค้าเกษตร เพราะได้รับการร้องเรียนว่ามีคนต่างด้าวเข้ามาทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก

อนุกก.นอมินี ชงแผนปราบนอมินีต่อบอร์ดใหญ่ 9 ธ.ค.นี้  

สำหรับแนวทางการตรวจสอบ หลังจากกำหนดธุรกิจเป้าหมาย จะมีการดำเนินการลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันที โดยการท่องเที่ยว กำหนดพื้นที่เป้าหมายในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ๆ

อสังหาริมทรัพย์ เน้นพื้นที่สอดคล้องกับการท่องเที่ยว และเมืองใหญ่ ๆ

การขนส่ง เน้นแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออก โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าเกษตร

คลังสินค้า พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าออนไลน์

ธุรกิจซื้อขายสินค้าเกษตร พื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ที่เป็นแหล่งปลูกผลไม้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเข้ามาทำธุรกิจของคนต่างด้าว และการใช้คนไทยเป็นนอมินี โดยมีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานรับเรื่อง ตรวจสอบ และจ่ายงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามอำนาจและกฎหมายที่หน่วยงานมีอยู่ต่อไป

“จะนำแผนทั้งหมดนี้ เสนอให้คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ในวันที่ 9 ธ.ค.2567 เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีแผนจะทำอะไรบ้าง และมีเป้าหมายอย่างไร "นายนภินทร กล่าว

โดยได้ตั้งเป้าทำให้นิติบุคคลอำพราง หรือคนต่างด้าวที่ใช้คนไทยเป็นนอมินี แล้วเข้ามาทำธุรกิจของคนไทยให้หมดไปจากประเทศโดยเร็ว เพราะสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศ

ก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้กำหนดแนวทางแก้ปัญหานอมินีใน 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยระยะสั้น กำหนดให้เห็นผลภายใน 1-3 เดือน จะใช้อำนาจของทุกหน่วยงานในการตรวจสอบ สืบสวน สอบสวนบุคคล หรือธุรกิจเสี่ยง และดำเนินคดี รวมถึงแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแต่ละหน่วยงาน เพื่อสร้างฐานข้อมูลเดียวกัน ที่จะใช้สืบสวน สอบสวน ตรวจสอบหาธุรกิจที่กระทำผิดและเข้าข่ายนอมินี

ส่วนระยะกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า อยู่ระหว่างจัดทำระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคค ที่มีผลต่อการการดำเนินธุรกิจตามกฎหมาย (IBAS) เพื่อจับผิดนิติบุคคลเสี่ยง คาดว่า จะเสร็จในไม่เกิน 6 เดือน

ระยะยาว จะแก้ไขกฎหมายสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่รับจดทะเบียนบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงตามกฎหมายของปปง. เช่น อาชญากรข้ามชาติ มีชื่อเป็นกรรมการในบริษัท ที่จะขอจดทะเบียนจัดตั้ง จากปัจจุบัน ที่ต้องรับจดให้ เพราะตามอำนาจหน้าที่ จะไม่รับจดเฉพาะบุคคลล้มละลาย และบุคคลไร้ความสามารถเท่านั้น โดยการแก้ไขกฎหมายน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ปี รวมทั้งอาจเพิ่มบทลงโทษกรณีการเป็นนอมินีให้มากขึ้น เพื่อให้เกรงกลัวการกระทำผิด