'การบินไทย' เตรียมขายหุ้นเพิ่มทุน 4.4 หมื่นล้าน เดินหน้าหาพันธมิตรทุนไทย
“การบินไทย” เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 4.4 หมื่นล้านบาท ปิดดีลสายการบินต่างชาติ เดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรทุนไทย ตั้งเป้านัดประชุมผู้ถือหุ้นตามโครงสร้างใหม่ เม.ย.2568 พร้อมจับตาการประชุมเจ้าหนี้ 29 พ.ย.นี้ โหวตเพิ่มผู้บริหารแผน
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยได้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของแผนฟื้นฟูกิจการแล้ว โดยอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างทุนซึ่งได้เริ่มต้นดำเนินการแปลงหนี้เป็นทุน และจะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822.5 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของการบินไทยก่อนการปรับโครงสร้างทุน พนักงานของบริษัทฯ และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามลำดับ คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 44,004.7 ล้านบาท ที่ราคาเสนอขาย 4.48 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันที่ 6 – 12 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ดี ตอนนี้มีความชัดเจนแล้วว่าปลายปีนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างทุน ส่วนทุนของการบินไทยจะกลับมาเป็นบวก เข้าเงื่อนไขยื่นออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ขณะที่ EBITDA ตอนนี้เป็นบวก มากกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งครบทั้งสองเงื่อนไขที่กำหนดในการยื่นออกจากแผนฟื้นฟู ดังนั้นคาดว่าในปลายเดือน เม.ย.นี้ น่าจะจัดประชุมผู้ถือหุ้นตามโครงสร้างใหม่ และยื่นออกจากแผนฟื้นฟูกิจการในไตรมาส 2 ปีหน้า ก่อนกลับเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ภายในกลางปี 2568
“การเสนอขายหุ้นในกลุ่ม PP ตอนนี้การบินไทยไม่ได้มีการเจรจากับพันธมิตรกลุ่ม Strategic Partner ที่เป็นสายการบินต่างชาติแล้ว เพราะผู้บริหารแผนตัดสินใจแล้วว่าจะยกเลิกการขายหุ้นส่วนนี้ เพราะในระยะสั้นอาจมีอุปสรรค จึงจะเป็นการเจรจาในกลุ่มนักลงทุนไทย เพื่อเสนอขายให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่ หรือ High Net Worth ซึ่งจะต้องเป็นนักลงทุนที่มีถิ่นฐานในไทยเป็นหลัก”
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบธุรกิจของการบินไทยในงวด 9 เดือนของปี 2567 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งและความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในการฟื้นฟูกิจการ จากจำนวนผู้โดยสารกว่า 11.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนของปี 2566 นอกจากนี้ ยังมีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) 47,778 ล้าน ASK เพิ่มขึ้น 19.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
และในส่วนของกำไร (ขาดทุน) จากการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2567 อยู่ที่ 24,191 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 29,330 ล้านบาท และ EBITDA ของงวด 9 เดือน ปี 2567 อยู่ที่ 33,742 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 37,590 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น อาทิ ค่าซ่อมแซมและบำรุงอากาศยาน ค่าบริการการบินจากจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอัตราค่าบริการการบินต่อเที่ยวปรับตัวสูง อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าการลงทุนเหล่านี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ส่วนการนัดประชุมเจ้าหนี้วันที่ 29 พ.ย.นี้ ซึ่งจะมี 3 วาระพิจารณา ประกอบด้วย 1. การลดพาร์เพื่อล้างขาดทุนสะสม 2. ขอจ่ายเงินปันผล และ 3. เพิ่มผู้บริหารแผนอีก 2 คน คือ นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม และนายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง
โดย 2 วาระแรกของการพิจารณานั้น เป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นในอนาคต เนื่องจากจะทำให้การบินไทยสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนได้ ส่วนวาระที่ 3 เรื่องการพิจารณาเพิ่มผู้บริหารแผน ถือเป็นอำนาจการตัดสินใจของเจ้าหนี้ทั้งหมด ที่จะพิจารณาความเหมาะสม และต้องคิดถึงประโยชน์ของตนเองเป็นหลักด้วย