แจกเงิน 10,000 บาทเฟส 2 - ไร่ละ 1,000 ยังไม่ทันเข้าครม.สัญจรเชียงใหม่วันนี้
“ครม.สัญจร” ครั้งแรก แพทองธารเชียงใหม่ จ่อเคาะโครงการจัดการน้ำเยียวยาน้ำท่วม 3 พันล้าน เคาะต่ออายุรถไฟฟ้า 20 บาท 1 ปี ส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท ทั้งแจกเงินผู้สูงอายุ 60 ปีคนละ 10,000 บาท และแจกชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เข้า ครม. 3 ธ.ค.67
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (29 พ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการ ครม.เปิดเผยว่าสำหรับโครงการที่จะมีการเสนอเข้า ครม.สัญจรในครั้งนี้จะมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับในพื้นที่ได้แก่
โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย 3,000 ล้านบาท และโครงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ
สำหรับโครงการขนาดใหญ่ที่จะใช้งบประมาณจำนวนมากที่เดิมคาดการณ์ว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาใน ครม.ครั้งนี้ได้แก่ โครงการ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านผู้สูงอายุด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ที่มีกลุ่มเป้าหมายนี้ไม่เกิน 4 ล้านคน โดยใช้เงินงบประมาณ 40,000 ล้านบาท หรือโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินหมื่นเฟส 2
และโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตชาวนาปีการผลิต 67/68 ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาท ยังไม่ทันที่จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในครั้งนี้เนื่องจากจะต้องมีขั้นตอนในการขอความเห็นจากหน่วยงานราชการ และกระทรวงที่เกี่ยวข้องซึ่งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะต้องเซ็นชื่อประกอบความเห็นก่อนที่จะนำเสนอ ครม.คาดว่าจะเข้าสู่การประชุม ครม.ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าการประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเชียงใหม่-เชียงราย กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม. ต่ออายุมาตรการอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท 2 โครงการ คือ
1.โครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงสายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
2.โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงเตาปูน - คลองบางไผ่ ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ออกไปอีก 1 ปี โดยจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ย. 2568 จากเดิมจะสิ้นสุดอายุมาตรการในวันที่ 30 พ.ย. 2567