’คลังสัญจร‘ อัดสินเชื่อ 9.4 หมื่นล้านบาท ฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่น้ำท่วม

’คลังสัญจร‘ อัดสินเชื่อ 9.4 หมื่นล้านบาท ฟื้นเศรษฐกิจพื้นที่น้ำท่วม

“คลัง” คิกออฟมาตรการการเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 67 วงเงินกว่า 9.4 หมื่นล้าน จัด “คลังสัญจร“ ลงพื้นที อ.แม่สาย จ.เชียงราย “ปรับ ฟื้น คืนสุข เมืองล้านนา” จ่อชงขยายวงเงินซอฟต์โลนเพิ่ม 5 หมื่นล้าน ช่วยพื่นที่น้ำท่วมภาคใต้

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคใต้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนเป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ เพื่อให้ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน กระทรวงการคลังจึงร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 8 แห่ง ได้แก่

  1. ธนาคารออมสิน
  2. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
  3. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
  4. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)
  5. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
  6. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
  7. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
  8. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 

โดยร่วมกันออกมาตรการด้านการเงินเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวัน ประกอบอาชีพ และประกอบธุรกิจต่อไปได้

“โดยสถาบันการเงินแต่ละแห่งได้ออกมาตรการมาช่วยเหลือลูกหนี้ในลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามกลุ่มเป้าหมาย ทั้งมาตรการพักชำระหนี้และลดดอกเบี้ย รวมไปถึงมาตรการสินเชื่อซอฟต์โลนซึ่งทำให้ดอกเบี้ยต่ำลง 3-4%”

นายลวรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังยังได้จัดสรรวงเงิน 50,000 ล้านบาท จาก โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) GSB Boost Up ของธนาคารออมสิน เพื่อนำมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำหรับมาฟื้นฟูกิจการ เพื่อประกอบอาชีพและดำเนินธุรกิจได้ต่อไปภายหลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 

โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการเสริมสภาพคล่อง สำหรับผู้ประสบอุทกภัย ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย รวมทั้ง บสย. ยังได้จัดทำโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ฟื้นฟู No One Left Behind วงเงินค้ำประกัน 1,000 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายวงเงินสินเชื่อซอฟต์โลนเพิ่มเติมอีก 50,000 ล้านบาท หากมีการขอเต็มวงเงินแล้ว

ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบน้ำท่วม อย่างเร่งด่วนในตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา มีประชาชนที่ประสบอุทกภัยได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เป็นจำนวนมากกว่า 740,000 ราย รวมยอดหนี้มากกว่า 94,000 ล้านบาท 

ขณะเดียวกัน มาตรการการดำเนินมาตรการด้านการเงินในระยะต่อไปจะเป็นการเน้นการเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของการฟื้นฟูและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ประชาชนสามารถกลับมามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน โดยกระทรวงการคลังจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะออกมาตรการที่เหมาะสมมาดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงทีและเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป