เงินเฟ้อเดือนพ.ย.สูง 0.95%  คาดปี 68 เงินเฟ้ออยู่ที่ 0.3 – 1.3%  ค่ากลาง 0.8%

เงินเฟ้อเดือนพ.ย.สูง 0.95%  คาดปี 68 เงินเฟ้ออยู่ที่ 0.3 – 1.3%  ค่ากลาง 0.8%

พาณิชย์ เผยน้ำมันดีเซล อาหารปรับขึ้น ดันเงินเฟ้อเดือนพ.ย.สูงขึ้น 0.95%  รวม 11 เดือน เงินเฟ้อสูง 0.32% คาดเงินเฟ้อปี 68 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 0.3 – 1.3%  ค่ากลาง 0.8%

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เงินเฟ้อเดือนพ.ย.2567 เท่ากับ 108.47 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 0.95%  โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล เป็นผลจากฐานราคาต่ำในปีก่อน และราคาสินค้าในหมวดอาหาร และเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคาผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับราคาสินค้า และบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อหักอาหารสด และพลังงานออก สูงขึ้น  0.80%  เฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค. – พ.ย.) ของปี 2567 สูงขึ้น  0.32%

เงินเฟ้อเดือนพ.ย.สูง 0.95%  คาดปี 68 เงินเฟ้ออยู่ที่ 0.3 – 1.3%  ค่ากลาง 0.8%

อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.สูงขึ้น 0.95% มาจากหมวดอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 1.28%  จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญกลุ่มผลไม้สด เงาะ มะม่วง กล้วยน้ำว้า แตงโม ทุเรียน ลองกอง กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ ร้อน/เย็น กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร มะพร้าว ผลแห้ง/ขูด น้ำตาลทราย กลุ่มอาหารสำเร็จรูป ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป อาหารเช้า กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่ และสัตว์น้ำ ปลานิล ไก่สด กุ้งขาว เนื้อสุกร และกลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง ขนมอบ ข้าวสารเหนียว

อย่างไรก็ตาม ยังมีสินค้าอีกหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสด ผักคะน้า มะนาว มะเขือ ผักกาดขาว ผักชี มะเขือเทศ แตงกวา พริกสด ไข่ไก่ ไก่ย่าง นมเปรี้ยว ปลาทู น้ำมันพืช และอาหารโทรศัพท์สั่ง (Delivery) เป็นต้น

หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหาร และเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.70%   จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน อาทิ น้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้ ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน ค่าบริการส่วนบุคคล ค่าแต่งผมบุรุษ และสตรี และค่ารถรับส่งนักเรียน ปรับสูงขึ้นเช่นกัน ขณะที่ยังมีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ แก๊สโซฮอล์ 95 ของใช้ส่วนบุคคล แชมพู สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ และเสื้อผ้า เสื้อยืดบุรุษ และสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษ และสตรี เป็นต้น

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ยังคงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2567 อยู่ระหว่างร้อยละ 0.2 – 0.8  ค่ากลาง  0.5%  ซึ่งเป็นอัตราที่สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ปี 2568 คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 0.3 – 1.3%  ค่ากลาง 0.8%

โดยมีปัจจัยที่สนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากปี 2567 ทั้งการขยายตัวของการลงทุน และการบริโภคภาคเอกชน รวมถึงแนวโน้มนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้อุปสงค์ต่อสินค้า และบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น  ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี 2567 และการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้นจาก “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท”

ขณะที่ปัจจัยที่กดดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ประกอบด้วยภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้า และการตรึงราคาก๊าซ LPG ฐานราคาผัก และผลไม้สด ในปี 2567 อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์เอลนีโญ และลานีญา ขณะที่ในปี 2568 คาดว่าสถานการณ์ดังกล่าว จะไม่รุนแรง และส่งผลกระทบต่อราคาไม่มากนัก  การชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ และการจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศ จะส่งผลให้ค่าเช่าบ้าน และราคารถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างจำกัด และสินค้าสำคัญมีแนวโน้มปรับขึ้นราคาอย่างจำกัด จากปัจจัยด้านต้นทุนสำคัญที่มีแนวโน้มปรับลดลง เช่น อัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมันในตลาดโลก

ทั้งนี้ หากสถานการณ์ในระยะถัดไปเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงพาณิชย์จะมีการทบทวนตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอีกครั้ง

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์