นายกฯ ผ่านโปร?ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

นายกฯ ผ่านโปร?ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 นับถึงปัจจุบันเข้ามาทำงานแล้วประมาณ 3 เดือน

โดยนายกรัฐมนตรีให้สัญญากับประชาชนผ่านรัฐสภาว่าจะมุ่งมั่นตั้งใจบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมทั้งประสานพลังจากทุกภาคส่วนขับเคลื่อนนโยบายที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ซึ่งตอบสนองสถานการณ์ปัจจุบันให้สำเร็จ พัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองของประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า

น.ส.แพทองธาร นัดที่จะแถลงผลงานครบรอบ 3 เดือน ในวันที่ 12 ธ.ค.2567 โดยออกมาระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ปี 2568 โอกาสไทยทำได้จริง 2025 Empowering Thais: A Real Possibility จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริง” ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีถูกตั้งข้อสังเกตถึงการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิสูจน์เองถึงการขับเคลื่อนคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน

การทำงานหลายด้านหรือหลายนโยบายที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจสูงสุด โดยมีหลายภารกิจที่มีความเห็นขัดแย้งหรือจำเป็นต้องมีการอธิบายต่อประชาชน ซึ่งบางโครงการเป็นประเด็นต่อเนื่องที่หาข้อสรุปไม่ได้ เช่น การแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ซึ่ง ครม.เห็นชอบให้มีมาตรการเยียวยาบริษัทเอเชีย เอราวัน จำกัด คู่สัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมา แต่การเจรจาแก้ไขสัญญายืดเยื้อมาตลอด

การปรับโครงการสร้างภาษีเป็นอีกประเด็นที่ทำให้รัฐบาลถูกวิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อมีการนำเสนอประเด็นการขึ้นภาษีขึ้นมา ในเวลาไม่กี่วันที่กระทรวงการคลังนำเสนอประเด็นการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) นายกรัฐมนตรีหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมออกมาระบุว่ายังไม่มีการปรับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 15% จากอัตราปัจจุบันอยู่ที่ 10% แต่มีการจัดเก็บที่อัตรา 7% รวมทั้ง ครม.เพิ่งมีมติต่ออายุการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

ความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอีกประเด็นที่นายกรัฐมนตรีจะต้องบริหารความสัมพันธ์ควบคู่ไปกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยที่ผ่านมามีหลายนโยบายที่มีความเสี่ยงต่อความความพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน การแก้ปัญหาที่ดินบริเวณเขากระโดง ทั้งหมดถือเป็นเรื่องท้าทายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งการทำงานของนายกรัฐมนตรีเมื่อครบ 3 เดือน จะผ่านหรือไม่ผ่านอยู่ที่ประชาชนให้คะแนน