ความกังวลซีเรียลด-จีนออกมาตรการกระตุ้นส่งผลราคาน้ำมันทรงตัว

รอยเตอร์สรายงาน ในวันอังคาร(10 ธ.ค.) ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 72.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาในตลาดทั้งสองเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในวันจันทร์

สถานการณ์ในซีเรีย กลุ่มกบฏกำลังจัดตั้งรัฐบาลและฟื้นฟู ความสงบเรียบร้อยหลังจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัส ซาดถูกขับไล่ โดยพนักงานในภาคธนาคารและน้ำมันของประเทศกลับมาทำงานในวันอังคาร

“ความตึงเครียดในตะวันออกกลางดูเหมือนจะอยู่ในขอบเขต ที่จำกัด ซึ่งทำให้ผู้ค้าในตลาดคาดการณ์ว่ามีความเสี่ยงต่ำที่ จะเกิดผลกระทบไปทั่วภูมิภาคซึ่งจะส่งผลให้เกิดการหยุด ชะงักของอุปทานน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญ” เยป จุน รอง นักกลยุทธ์ตลาดของกลุ่มบริษัทการเงิน IG กล่าว

 แม้ว่าซีเรียจะไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แต่ซีเรียตั้งอยู่ใน ตำแหน่งเชิงยุทธศาสตร์ และมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ รัสเซียและอิหร่าน การถ่ายโอนอำนาจที่เกิดขึ้นหลังสงครามกลางเมือง 13 ปี และยุติการปกครองที่โหดร้ายของตระกูลอัสซาดที่กินเวลา นานกว่า 50 ปี ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคง ในภูมิภาค

ราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสิน ใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 %ในการประชุมวันที่ 17-18 ธันวาคม ซึ่งอาจส่งผลให้ความต้องการน้ำมันในเศรษฐกิจที่ ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้น แม้ว่าผู้ค้าจะรอที่จะดูว่าข้อมูล เงินเฟ้อในสัปดาห์นี้จะขัดขวางการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้หรือ ไม่

รายงานที่ระบุว่าจีนจะใช้การดำเนินนโยบายการเงินแบบ “ผ่อนปรนอย่างเหมาะสม” ในปี 2025 เป็นปัจจัยหนุนราคา น้ำมัน เนื่องจากปักกิ่งพยายามกระตุ้นการเติบโตทาง เศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งแรก ในรอบ 14 ปี แม้ว่ารายละเอียดจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม

การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยเพิ่มสูงขึ้นในเดือนพฤศจิกายนเมื่อเทียบกับเดือน เดียวกันในปีที่แล้ว

 อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นนี้ “เป็นผลจากการสำรองน้ำมันเพิ่ม มากกว่าการฟื้นตัวขึ้นของอุปสงค์” ทามาส วาร์กา จากบริษัท นายหน้าค้าน้ำมัน PVM กล่าว