‘แพทองธาร’ มอบ 6 รองนายกฯ เคลื่อน 11 นโยบาย เร่งเครื่องสร้างผลงานเศรษฐกิจ

‘แพทองธาร’ มอบ 6 รองนายกฯ เคลื่อน 11 นโยบาย เร่งเครื่องสร้างผลงานเศรษฐกิจ

นายกฯ แถลงผลงาน 3 เดือน ฉายภาพ โอกาสไทยทำได้จริง มอบ 6 รองนายกฯ เคลื่อน 11 นโยบาย ดันลงทุนไทยเป็นฮับ AI-EV-คอนดักเตอร์ ปั้นบุคลากรรองรับลงทุน 2.5 แสนคน ใน 5 ปี เดินหน้า บ้านคนไทย ฟื้นโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน แก้ผูกขาดส่งออกข้าว ให้รายย่อยส่งออกข้าวได้มากขึ้น แจกเงินหมื่นเฟส 3 ปี 2568

KEY

POINTS

  • นายกฯ แถลงผลงาน 3 เดือน ฉายภาพ โอกาสไทยทำได้จริงในปี 2568 ให้เป็นปีแห่งความหวัง มอบ 6 รองนายกฯ เคลื่อน 11 นโยบายด้านต่างๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
  •  โดยมีนโยบายเด่นๆ เช่น ดันลงทุนไทยเป็นฮับ AI-EV-เซมิคอนดักเตอร์ ปั้นบุคลากรรองรับลงทุน 2.5 แสนคน ใน 5 ปี
  • นโยบายบ้านเพื่อคนไทย ฟื้นโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน แก้ผูกขาดส่งออกข้าว ให้รายย่อยส่งออกข้าวได้มากขึ้น
  • ยืนยันแจกเงินหมื่นเฟส 3 ปี  2568 หลังจากเฟส 2 ไม่เกินตรุษจีนปีหน้า 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลดำเนินงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน และมอบนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีให้ข้าราชการระดับสูง ภายใต้แคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง 2025 Empowering Thais: A Real Possibility จากผลงานที่เป็นรูปธรรม สู่อนาคตที่ทำได้จริง” เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT)

นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายรวม 11 นโยบาย แบ่งเป็น นโยบายระยะยาวต้องทำเชิงโครงสร้าง 6 นโยบาย คือ การจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง การแก้ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ปัญหายาเสพติด การทลายการผูกขาด การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ และนโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต 

รวมทั้งนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 รวม 5 นโยบาย คือ โครงการ SML หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน ดิจิทัลวอลเล็ต การแก้หนี้ครัวเรือน และโครงการบ้านเพื่อคนไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลงานของรัฐบาลปัจจุบันเป็นผลงานต่อเนื่องมาจากการบริหารงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยรัฐบาลปัจจุบันทำงานผ่านความร่วมมือของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้าราชการ เพื่อประชาชนมาแล้ว 90 วันเต็ม 

ทั้งนี้ปัจจุบัน ‘ทุกคนคือ ทีมเดียวกัน’ และร่วมกันเดินหน้าเต็มที่วางรากฐานประเทศไทยในทศวรรษหน้า ให้คนไทยมีกิน-มีใช้-มีเกียรติ-มีศักดิ์ศรี ประเทศไทยในปี 2568 จะเป็นปีแห่ง “โอกาส” รัฐบาลจะสร้างผลงานที่เป็นรูปธรรมเพื่อสร้างอนาคตที่เป็นจริง ดังนี้

นโยบายการแก้ปัญหา “น้ำท่วม-น้ำแล้ง” โดยน้ำต้องเพียงพอสำหรับการอุปโภค บริโภค เกษตร และอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการทั้งระยะสั้น - กลาง - ระยะยาว ทั้งการศึกษาแนวทางอนุญาตให้ประชาชนขุดลอก คู คลองแล้วนำดินไปใช้หรือขายได้ รวมถึงศึกษาโครงการ Floodway และโครงสร้างขนาดใหญ่ที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืน

‘แพทองธาร’ มอบ 6 รองนายกฯ เคลื่อน 11 นโยบาย เร่งเครื่องสร้างผลงานเศรษฐกิจ

รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมต้องเจรจา และประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการ

นโยบายการแก้ปัญหาหมอกควัน โดยนายกรัฐมนตรีประกาศ KPI กำหนดให้ PM 2.5 จะต้องลดน้อยลงทั้งปริมาณฝุ่น และจำนวนผู้ป่วยจากฝุ่นต้องลดลงทุกปี โดยปัจจุบันรัฐบาลควบคุมการเผาในประเทศ การเจรจาประเทศเพื่อนบ้านให้ลดการเผา โดยมอบให้นายประเสริฐ ไปดูแล รวมทั้งดูการออก พ.ร.บ.อากาศสะอาด 

นโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดต้องมีมาตรการเข้มงวด และมีประสิทธิภาพขึ้น โดยรัฐบาลเอาจริงเรื่องนี้ และขอให้ประชาชนช่วยตรวจสอบ และเฝ้าสังเกต โดยรัฐบาลจะทำแพลตฟอร์มให้ประชาชนแจ้งเบาะแสยาเสพติดส่งถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรง ซึ่งจะรักษาความปลอดภัยข้อมูลผู้แจ้งเพื่อให้ประชาชนมั่นใจ 

รวมถึงรัฐบาลจะใช้โมเดลโครงการท่าวังผาโมเดล และธวัชบุรีโมเดล มาใช้แก้ปัญหายาเสพติด โดยมอบหมายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินการ

สั่งแก้ปัญหาผูกขาดส่งออกข้าว 

นโยบายแก้ปัญหาผูกขาด โดยการผูกขาดเพิ่มต้นทุนให้ประชาชน และประชาชนยากจนลง ซึ่งรัฐบาลจะเร่งปลดล็อกการผูกขาด โดยเฉพาะการผูกขาดการส่งออกข้าวที่ตั้งเป้าให้เกษตรกรทุกคน และผู้ค้าข้าว SMEs ส่งออกข้าวไปทั่วโลกได้เอง 

รวมทั้งการปลดล็อกการผูกขาดราคาพลังงานด้วยเงื่อนไขทางกฎหมาย เพื่อปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า และค่าพลังงานให้ถูกลง ซึ่งมีประเด็นค่าผ่านท่อก๊าซที่คิดค่าเสื่อมมานานแล้ว แต่ยังมีการคำนวณจึงต้องไปแก้ไขส่วนนี้ ควบคู่กับการผลักดันนโยบายไฟฟ้าสะอาด เพื่อสนับสนุนการลงทุน โดยมอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ดำเนินการ

รวมถึงการส่งเสริมสุราชุมชน ซึ่งเกษตรกรจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพราะมีการส่งออกเครื่องดื่มปีละ 70,000 ล้านบาท เช่น ซอฟต์ดริงก์ น้ำแร่ น้ำหวาน และรัฐเก็บภาษีได้ปีละ 185,000 ล้านบาท โดยการแก้ปัญหานี้จะปกป้องประชาชน และเป็นรายได้รัฐบาล

นโยบายการนำธุรกิจใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดิน และกำกับให้ถูกกฎหมายโดยคาดว่าธุรกิจใต้ดินมีมูลค่า 49% ของจีดีพี โดยมอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินการ

ดันไทยฮับ AI ภูมิภาค 

นโยบายดึงการลงทุน โดยเฉพาะเทคโนโลยี และ AI ที่ตั้งเป้าหมายเป็น AI Hub ของภูมิภาค เพราะมีบริษัทใหญ่ลงทุน Data center มูลค่าการลงทุนมากกว่าล้านล้านบาท 

ทั้งนี้ ระยะต่อไปต้องเพิ่มการลงทุนสร้างทักษะแรงงานให้ทันอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และสร้างงานให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษาที่จบใหม่ (first jober) เพื่อรองรับสาขาที่เป็นสาขาสำคัญของไทย ได้แก่ AI รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเตรียมความพร้อมแรงงานไว้ใน 5 ปี สร้างแรงงาน 2.5 แสนคน

รวมทั้งรัฐบาลมุ่งมั่นสร้างคนในเทคโนโลยี และ AI ให้เรียนระดับมหาวิทยาลัยมากขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจนี้ รวมถึงขับเคลื่อน Green Energy เพื่อดึงนักลงทุน และให้ไทยแข่งขันได้ โดยมอบให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รับผิดชอบ

ฟื้นนโยบาย 1 อำเภอ 1 ทุน 

นโยบาย ‘หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน’ (ODOS) จะกลับมาอีกครั้ง โดยใช้งบประมาณจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งมีโครงการเปิดโอกาสให้เด็กไทยไปฝึกภาษาที่ต่างประเทศเป็นเวลาสั้น ๆ ในโครงการ ‘1 อำเภอ 1 ซัมเมอร์แคมป์’ 

รวมทั้งโครงการอัปเกรดโรงเรียนประจำอำเภอ ทำให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เติมครู เติมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา และ AI ให้เด็กทุกอำเภอ เพื่อเตรียมพร้อมเด็กไทยสู่การเติบโตที่เข้มแข็ง และแข็งแรง และมีการศึกษาที่ดี 

ทั้งนี้ จะให้ลงทะเบียนปี 2568 โดยมอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายประเสริฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บูรณาการทำงานร่วมกัน

นโยบายโครงการ SML เปิดโอกาสคนทุกตำบลหมู่บ้านคิด และลงมือแก้ปัญหาในพื้นที่ผ่านโครงการ SML ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่กระจายโอกาส และเงินลงไปในทุกหมู่บ้าน พร้อมกับกองทุนเพื่อฟื้นฟู SME ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทยอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อให้ SME กลับมายืนได้อย่างเข้มแข็ง 

ผุดโครงการบ้านเพื่อคนไทยเช่าเดือนละ 4,000 บาท 

นโยบายบ้านเพื่อคนไทย (Public Housing) ที่เป็นโครงการคอนโดมิเนียมคุณภาพดีพร้อมเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ เริ่มต้น 30 ตารางเมตร ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 25 ปี และให้สิทธิอยู่อาศัย 99 ปี ที่จะเป็นความหวังของคนไทยที่อยากมีบ้าน โดยมอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 

นโยบายรถไฟฟ้า 20 ตลอดสายให้เกิดขึ้นจริง โดยขณะนี้ดำเนินการแล้วในสายสีแดง และสีม่วง เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการรถไฟฟ้า และลดรายจ่ายให้ประชาชนด้วย

ย้ำแจกเงินหมื่นเฟส 3 ในปี 68 

นโยบายเงินดิจิทัล หรือ เงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยเงินสดจะถึงมือผู้สูงอายุ 4 ล้านรายไม่เกินตรุษจีนนี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการระยะที่ 3 สำหรับบุคคลทั่วไปภายในปี 2568 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องพร้อมกับยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล เกิดการเชื่อมต่อระหว่างภาครัฐ และประชาชน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น 

นโยบายการแก้หนี้ครัวเรือน โดยเน้นที่หนี้ ‘รถยนต์’ และ ‘บ้าน’ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ซึ่งเป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะเติมให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อพักดอกเบี้ย 3 ปี ให้ลูกหนี้จ่ายคืนเงินต้นได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 

พร้อมมาตรการประนอมหนี้แบบพิเศษที่จะล้างหนี้ให้ทั้งหมด สำหรับลูกหนี้มูลหนี้ต่ำกว่า 5,000 บาท ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป

ตั้งเป้า 2 ปีเศรษฐกิจต้องดีขึ้น

“2 ปีกว่า ๆ ที่เหลืออยู่ของรัฐบาลประชาชนต้องมีความเป็นอยู่ดีขึ้น และเศรษฐกิจต้องดีขึ้น ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นจริงในปี 2568 ซึ่งเราได้เห็นกันแล้วว่าความหวัง ความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เป็นอนาคตที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ และเกิดขึ้นอย่างแน่นอน” 

รวมทั้ง วันนี้ ครม. ทีมข้าราชการ นักการเมือง และประชาชนต่างมีหัวใจเดียวกัน คือ การทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน และการทำให้ประไทยดีขึ้น โดยอยากให้ข้าราชการทุกคนยึดคติในใจว่า หลังจากนี้ จะเป็นปีแห่งการสร้าง ‘People Empowerment’ เพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจเรา หรือการลด และเพิ่มประสิทธิภาพของภาครัฐ

“สุริยะ” เร่งตั๋วร่วม - บ้านเพื่อคนไทย

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเริ่มใช้ได้เดือนก.ย.2568 ครอบคลุมรถไฟฟ้า 5 สาย คือ หากเดินทางจาก MRT เลี่ยงเมืองปากเกร็ดไปแอร์พอร์ตลิ้งก์ (สุวรรณภูมิ) ต้องใช้บัตรโดยสารถึง 5 ใบ ต่อรถ 5 สาย ในราคา 150 บาท ดังนั้นโครงการนี้จะทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้พร้อมมั่นใจ พ.ร.บ.ตั๋วร่วมที่จะไม่มีปัญหา

“หากประชาชนประหยัดค่าเดินทางได้จะนำมาเป็นค่าผ่อนบ้านตามโครงการบ้านเพื่อคนไทยได้ โดยใช้ที่ดินการรถไฟฯ ก่อสร้าง ผ่อนนาน 30 ปี อาศัยได้ 99 ปี และผ่อนเดือนละ 4,000 บาท" 

ทั้งนี้จะเปิดตัวบ้านตัวอย่างวันที่ 20 ม.ค.2568 ที่สถานีกลางบางซื่อ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจองได้เริ่มต้น 4 แห่ง ประกอบด้วย ย่านบางนา ธนบุรี เชียงรากและเชียงใหม่ 1,000 ยูนิต โดยหากจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นอาศัยต่อ เจ้าของผู้จับจองต้องอาศัยอย่างน้อย 5 ปีถึงจะโอนสิทธิได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์