'โคเน่' ชู 'นวัตกรรมอัจฉริยะ' พลิกโฉมอาคารสูงในไทย ปรุงแต่งอาคารลดคาร์บอน
KONE บริษัทชั้นนำด้านลิฟต์และบันไดเลื่อนระดับโลก เดินหน้าพัฒนาโซลูชันอัจฉริยะเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเผยถึงกลยุทธ์และมุมมองของบริษัทต่อตลาดในภูมิภาคนี้
"กรุงเทพธุรกิจ" มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ "เอ็ดเวิร์ด ลอย" กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ KONE ถึงโครงการสำคัญในประเทศไทย ซึ่ง KONE มีหลายโครงการที่โดดเด่นในประเทศไทย เช่น การติดตั้งเทคโนโลยี Regenerative Drive ที่โครงการ The River, South Tower ในกรุงเทพฯ ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ KONE ยังได้ร่วมงานกับท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองในการปรับปรุงทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ โดยดำเนินการในช่วงกลางคืนเพื่อไม่ให้กระทบต่อการจราจรในสนามบิน สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย KONE ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ลิฟต์เฉพาะสำหรับโครงการเทลล่า ทองหล่อ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง โดยสามารถบำรุงรักษาระบบได้จากระยะไกล รวมถึงยังมีการดำเนินการปรับปรุงโครงการ รสา วัน ซึ่งเป็นอาคารอายุ 30 ปี โดยคาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างน้อย 30% หลังการปรับปรุง
"เอ็ดเวิร์ด ลอย" เล่าว่า KONE มีพนักงานในประเทศไทยประมาณ 300 คน โดยเป็นคนไทยเกือบทั้งหมด บริษัทได้ลงทุนในการพัฒนาบุคลากรผ่าน KONE Academy ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี โดยศูนย์นี้ใช้สำหรับการฝึกอบรมพนักงานและเป็นโชว์รูมแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล่าสุดให้กับลูกค้า
มุมมองต่อตลาดในไทยและตลาดโลก
เอ็ดเวิร์ด เล่าว่า KONE มองเห็นโอกาสการเติบโตทั้งในตลาดไทยและตลาดโลก โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและการปรับปรุงอาคาร ในประเทศไทย ซึ่งมีตึกระฟ้าสูงกว่า 150 เมตรถึง 115 อาคาร (อันดับ 13 ของโลก) KONE ได้นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะอย่างตรงจุด แนวโน้มนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในประเทศไทย แต่ยังขยายไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายหลังวิกฤตการเงินปี 1998 ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ได้เห็นการก่อสร้างอาคารจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่ช่วงที่ต้องการการปรับปรุง สร้างโอกาสทางธุรกิจสำคัญให้กับ KONE โดยเฉพาะในประเทศไทยที่การขยายตัวของเมืองยังอยู่ที่ประมาณ 50-60% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่ยังมีอีกมาก
ในขณะเดียวกัน ตลาดจีนก็นำเสนอโอกาสที่น่าสนใจ แม้จะมีการชะลอตัวของโครงการก่อสร้างใหม่ แต่ KONE ยังคงมองเห็นช่องทางการเติบโตจากงานบริการ บำรุงรักษา และการปรับปรุงอาคารเก่า โดยเฉพาะอาคารที่สร้างในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการมุ่งเน้นการปรับปรุงและบำรุงรักษา
ส่วนในระดับโลก KONE ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยคาร์บอนในอาคาร ซึ่งเป็นแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือนโยบายด้านพลังงาน เนื่องจากอาคารบริโภคพลังงานถึง 40% ของพลังงานทั้งหมดบนโลก การมุ่งเน้นด้านนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของตลาด แต่ยังสอดคล้องกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของตลาดทั่วโลก KONE จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าระดับโลก เช่น Marriott, Hilton, JLL และ Bouygues ซึ่งไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในระดับสากล แต่ยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งทางการตลาดของบริษัทในเวทีโลกอีกด้วย
อัตราการเติบโตในประเทศไทยหลังโควิด-19
แต่ละกลุ่มธุรกิจมีการเติบโตที่แตกต่างกัน โรงแรมหลายแห่งเริ่มปรับปรุงเพื่อรองรับการกลับมาของการท่องเที่ยว ในขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยมีการเติบโตในบางส่วน โดยเฉพาะโครงการจากผู้พัฒนาที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ที่อยู่อาศัยราคาประหยัดได้รับผลกระทบจากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูงขึ้น ส่วนตลาดระดับกลางถึงระดับบนยังคงมีผู้ซื้อ
นอกจากนี้ การปรับปรุงอาคารสำนักงานเก่าเพื่อแข่งขันกับอาคารสำนักงานเกรด A ที่มีอุปทานล้นตลาดก็เป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะหลังจากที่ผู้คนเริ่มกลับมาทำงานในสำนักงานมากขึ้น
KONE ยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในประเทศไทยและภูมิภาค พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต