'ธอส.' เผย 'ทริสเรทติ้ง' คงอันดับเครดิตองค์กรในระดับ AAA แนวโน้มคงที่
ธอส. เผย ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรในระดับ AAA เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธอส. ที่ระดับคงที่ (Stable)
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ทริสเรทติ้ง สถาบัน
การจัดอันดับเครดิตที่มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล ประกาศอันดับเครดิตองค์กรของ ธอส. ในปี 2567 โดยคงอันดับเครดิตองค์กรของ ธอส. ในระดับ “AAA” เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และแนวโน้มอันดับเครดิตที่ระดับ “คงที่” (Stable) ตอกย้ำการเป็นสถาบันการเงินของรัฐที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มั่นคง และมีเสถียรภาพ
โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ธอส. มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างรวมทั้งสิ้น 1.75 ล้านล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 34.9% หรือ 1 ใน 3 ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ ธอส. จึงนับเป็นสถาบันการเงินที่เป็นผู้นำตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยของประเทศ
ขณะที่สินทรัพย์รวมมีมูลค่าสูงกว่า 1.8 ล้านล้านบาท และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ระดับ 16.01% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.5%
ขณะเดียวกัน ธอส. ยังให้ความสำคัญในการช่วย “รักษาบ้านให้คนไทย” ควบคู่ไปกับการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล โดยจัดงานมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือน รวมทั้งจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน เพื่อช่วยเหลือลูกค้า ในกลุ่มเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ให้เข้ามาเจรจาปรับโครงสร้างหนี้
ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการรวม 114,101 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 133,255.49 ล้านบาท รวมทั้งมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ลูกหนี้บ้านธอส. ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จำนวน 3.49 แสนบัญชี วงเงินต้นคงเหลือ 3.1 แสนล้านบาท โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาบ้านให้คนไทย และทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ ธอส. ลดลงมาอยู่ในระดับ 4-5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.5%
โดย ธอส. คาดการณ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 จะอยู่ที่ 2.4-2.5 แสนล้านบาท ผ่านการให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและเงินงวดในการผ่อนชำระอยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง และสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประจำ-อาชีพอิสระ ที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาท/เดือน
“จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในปลายปี 2567 ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจในปี 2568 ขยายตัวดีขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่าการปล่อยสินเชื่อใหม่จะได้ตามที่คาดการณ์ไว้ โดย ธอส. พร้อมสานต่อนโยบายของรัฐในการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน ด้วยการให้บริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพเพิ่มมากขึ้น” นายกมลภพ กล่าว