easy e-receipt ฟื้นกำลังซื้อ ม.หอการค้า ชี้สร้างแรงส่งต้นปี 68
“ธนวรรธน์” ชี้ ท่องเที่ยว โครงการอีซี่ อี-รีซีท บวก 3 มาตรการรัฐ ต้นปี 2568 หนุนกำลังซื้อ การบริโภค ดันเศรษฐกิจฟื้นต่อเนื่อง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า กำลังซื้อ และการบริโภคในไตรมาส 4 ปี 2567 เชื่อว่าจะอยู่ในระดับดี เพราะดูจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีในไตรมาส 3 ประมาณ 3 % ต่อเนื่องในไตรมาส 4 โต 4 % ซึ่งก็เป็นไปตามหลักการ
ดังนั้นเชื่อว่าการกำลังซื้อ และการบริโภคจะดี โดยมาจากการใช้จ่ายภาครัฐ การขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนการส่งออก และการท่องเที่ยวที่โดดเด่น ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศในช่วง 11 เดือน 15 วัน ประมาณ 33.5 ล้านคน
ทั้งนี้ ประมาณการว่าสิ้นปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 36 ล้านคน เมื่อการท่องเที่ยวโดดเด่นขึ้นก็ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดท่องเที่ยวมีความโดดเด่น ส่งผลให้การบริโภค และกำลังซื้อภายในประเทศดีขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้งรัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ทางกระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นการบริโภคในประเทศ โครงการอีซี่ อี-รีซีท (easy e-receipt) ก็จะทำให้มีแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังคงประมาณการจีดีพีปี เท่าเดิมที่ 2.6% โดยภาคบริการหรือภาคการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 35-36 ล้านคน ส่วนการส่งออก มีแนวโน้มขยายตัวได้ 4.6% การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัว 1.6% ส่วนการลงทุนภาครัฐ ขยายตัว 2%
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ในต้นปี 2568 รัฐบาลก็ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งน่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 40,000 ล้านบาท บวกกับมาตรการ “คุณสู้ เราช่วย” พักดอกเบี้ย ลดการชำระเงินต้น ซึ่งจะมีการลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2567 - 28 ก.พ.2568 ซึ่งน่าจะเริ่มมีผลในปลายไตรมาส 1
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนทั้งปีอย่างน้อย 80,000 - 100,000 ล้านบาท ที่ประชาชนจะประหยัดไปได้ และธนาคารเองก็จะสามารถปล่อยเงินกู้ได้ต่อ และมาตรการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท คาดว่าเงินจะหมุนเข้าระบบประมาณ 40,000 ล้านบาท
“จากมาตรการดังกล่าว จะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 1.0 - 1.5 แสนล้านบาท จะมีผลให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ดีขึ้น อีกทั้งในช่วงไตรมาสแรกซึ่งเป็นไฮซีซัน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากเพราะปีตั้งเป้าว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 40 ล้านคน" นายธนวรรธน์ กล่าว
ดังนั้น ก็ยิ่งเป็นแรงบวกสำหรับเศรษฐกิจไทย กำลังซื้อ และการบริโภค ภายใต้เงื่อนไขไม่มีการช็อกโลกจากผลกระทบสงครามการค้าที่รุนแรง สงครามรัสเซีย-ยูเครน สงครามในตะวันออกกลาง บานปลายรุนแรง และการเมืองไม่สงบ วุ่นวาย
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับจีดีพีของปี 2568 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า จีดีพีโตประมาณ 3% ภายใต้เงื่อนไขไม่มีเหตุการณ์ใดรุนแรง แต่หากทรัมป์ ทำสงครามการค้าขึ้นภาษี10% จะทำให้เงินหายจากระบบไปประมาณ 160,000 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการลดหย่อนภาษี โครงการ Easy E-Receipt (อีซี่ อี-รีซีท) เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 24 ธ.ค.2567
ทั้งนี้ โครงการ Easy E-Receipt สำหรับให้ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษี ไปจับจ่ายใช้สอยในกับร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษี/ใบรับ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt วงเงิน 50,000 บาท เริ่มตั้งแต่ 15 ม.ค. - 28 ก.พ.2568 โดยสามารถนำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์