เปิด 3 ปัจจัยหลักหนุน 'ธุรกิจดาวเด่น' ปี 2568 โต
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ขอนำส่งข่าวเรื่อง สศอ. เผย MPI พ.ย. 2567 หดตัวร้อยละ 3.58 คาดปีหน้ากลับมาคึกคัก รับมาตรการรัฐ กระตุ้นใช้จ่ายในประเทศ หนุนอุตฯ ท่องเที่ยวดาวเด่น ปี 68
KEY
POINTS
- อุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัว ตลาดในประเทศชะลอตัว กดดันกำลังซื้อ หนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และผลกระทบจากสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
- การกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ เช่น เงิน 10,000 บาท แจกเงินผู้สูงอายุ โครงการช่วยเหลือเกษตรกร การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ถือเป็นปัจจัยบวก
- แนวโน้มปี 2568 อุตสาหกรรมดาวเด่นมีแนวโน้มเติบโตจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและการขยายตัวของภาคการส่งออกสินค้าไทย
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ระดับ 93.41 หดตัว 3.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ภาพรวม 11 เดือนแรกปี 2567 หดตัวเฉลี่ย 1.78% คาดแนวโน้มปี 2568 การผลิตภาคอุตสาหกรรมจะกลับมาคึกคักอีกครั้งจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัวเป็นอุตสาหกรรมดาวเด่นประจำปี 2568
นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) พฤศจิกายน 2567 อยู่ที่ระดับ 93.41 หดตัว 3.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 57.60% ส่งผลให้ภาพรวม 11 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ระดับ 96.25 หดตัวเฉลี่ย 1.78% และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 58.64%
โดยปัจจัยที่ส่งผลลบต่อภาคการผลิต ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่หดตัวต่อเนื่อง ตลาดภายในประเทศชะลอตัว กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค หนี้ครัวเรือน อยู่ในระดับสูง และผลกระทบจากการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาที่มีนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน อาจทำให้สินค้าเข้ามาสู่ไทยและอาเซียนมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวก จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ เช่น
โครงการเงิน 10,000 บาท โครงการแจกเงินผู้สูงอายุ โครงการช่วยเหลือเกษตรกร การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) ขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และภาคการท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัวเพิ่มขึ้น
ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนธันวาคม 2567 ส่งสัญญาณปกติเบื้องต้น โดยปัจจัยภายในประเทศส่งสัญญาณปกติเบื้องต้น เนื่องจากปริมาณสินค้านำเข้าขยายตัว ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการส่งเสริมการท่องเที่ยว
ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลง จากภาคการผลิตในสหภาพยุโรปที่ขยายตัว เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาเติบโตได้ แต่ยังมีความกังวลต่อนโยบายทางการค้าในอนาคต รวมถึงภาคการผลิตของประเทศญี่ปุ่นยังซบเซา
แนวโน้มปี 2568 อุตสาหกรรมดาวเด่น มีแนวโน้มเติบโตจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่
1. การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง
2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น ภาครัฐให้เงินอุดหนุนค่าครองชีพ Easy E-Receipt 2.0
3. การขยายตัวของภาคการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไทย
สะท้อนได้จากมูลค่าการส่งออกที่ขยายตัวในเกณฑ์ดี ซึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์ ประกอบด้วย
- อาหารและเครื่องดื่ม
- ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม
- บรรจุภัณฑ์ ทั้งพลาสติก กระดาษ และโลหะ
ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับห่วงโซ่การผลิตทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ และ Hard Disk Drive ที่ผู้บริโภคมีความต้องการกลับมาอีกครั้ง
ซึ่งเป็นไปตามโครงสร้างวัฏจักรของสินค้าที่เริ่มหมดอายุรับประกัน อีกทั้ง มีความต้องการเพิ่มขึ้นในกลุ่ม Data Centers ทำให้คำสั่งซื้อปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ ส่งผลให้ภาพรวมช่วง 11 เดือนแรกที่ผ่านมาในปี 2567 ขยายตัวมากกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนพฤศจิกายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
เครื่องจักรอื่น ๆ ที่ใช้งานทั่วไป ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 24.56 จากผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ เป็นหลัก ตามอุณหภูมิเฉลี่ยโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงผู้ผลิตบางรายสามารถส่งออกสินค้าที่ผ่านมาตรฐานการรับรองได้หลังติดปัญหาในปีก่อน ประกอบกับทำการพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น
สัตว์น้ำบรรจุกระป๋อง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.43% จากผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋อง เป็นหลัก ตามความต้องการของคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลียที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงการขยายตัวของตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา เป็นต้น
เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (ยกเว้นร้านตัดเย็บเสื้อผ้า) ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.58% จากผลิตภัณฑ์ เครื่องแต่งกายชั้นนอกและเครื่องแต่งกายชั้นในสตรีและเด็กหญิงทำจากผ้าทอ เป็นหลัก ตามการขยายตัวของตลาดส่งออก หลังมีคำสั่งซื้อจากอเมริกาและยุโรปเพิ่มขึ้นจากมาตรการปกป้องตลาดภายในประเทศของสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนตัว
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนพฤศจิกายน 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
ยานยนต์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 27.21% จากรถบรรทุกปิคอัพ และรถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถยนต์นั่งไฮบริด เป็นหลัก ตามการชะลอตัวของตลาดในประเทศ จากสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ตลาดส่งออกชะลอตัวตามความต้องการที่ลดลงของประเทศคู่ค้า
น้ำมันปาล์ม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34.54% จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์และน้ำมันปาล์มดิบ เนื่องจากปริมาณผลปาล์มที่ลดลงจากปัญหาภัยแล้ง การจำหน่ายหดตัวทั้งในประเทศและการส่งออกหลังภาครัฐขอความร่วมมือลดปริมาณการส่งออกและปรับสัดส่วนผสมน้ำมันจาก B7 เป็น B5
ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.63% จาก Integrated circuits (IC) และ PCBA เป็นหลัก ตามคำสั่งซื้อที่ลดลงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว