ครม.อนุมัติออกสลากการกุศล 11 ล้านฉบับ ระดมเงิน 1 หมื่นล้าน จัดสรรให้ ODOS 30%

ครม.อนุมัติออกสลากการกุศล 11 ล้านฉบับ ระดมเงิน 1 หมื่นล้าน จัดสรรให้ ODOS 30%

ครม.ไฟเขียวออกสลากการกุศล 11 ล้านฉบับ ระดมเงินหมื่นล้าน ภายใน 2 ปี พร้อมเปิดรับข้อเสนอโครงการภายในเดือนมี.ค. “จุลพันธ์” เผยโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ต้องเสนอผ่านบอร์ดสลากการกุศลพิจารณา

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (7 ม.ค.68) เห็นชอบการออกสลากการกุศลพิเศษเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล จำนวน 11 ล้านฉบับ โดยมีเป้าหมายในการระดมเงินภายใน 2 ปี ให้ได้วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท  

โดยขั้นตอนต่อไป หน่วยงานที่มีความต้องการใช้วงเงินในส่วนนี้จะต้องเสนอโครงการในการขอใช้งบประมาณเข้ามาให้พิจารณาภายในเดือนก.พ. - มี.ค.2568 รวมทั้งโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน (One District One Scholarship) หรือ “ODOS” ที่ต้องมีการเสนอโครงการมาเช่นกัน โดยหน่วยงานที่จะพิจารณาโครงการทั้งหมดคือ คณะกรรมการสลากการกุศล ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน 

"นโยบายรัฐบาลชัดเจนในเรื่องการขับเคลื่อนด้านการศึกษา ดังนั้นกรอบในการออกสลากการกุศลที่มีการปรับเปลี่ยนคือ การให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นลำดับแรก โดยประเมินว่าจะมีการจัดสรรวงเงินสำหรับโครงการ ODOS คิดเป็น 30% ของวงเงินทั้งหมด" 

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้โครงการสลากการกุศล มักนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือกิจการทางการแพทย์ ระบบสาธารณสุขในประเทศ เช่น ช่วยเหลือโรงพยาบาลให้สามารถพัฒนา ซ่อมแซม ปรับปรุง จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญ รวมถึงการช่วยเหลือทางศาสนา โรงเรียนเพื่อการศึกษา 

 

 

ทั้งนี้ การออกสลากกุศลงวดละ 11 ล้านใบ จะเป็นการนำสัดส่วนจากโควตาสลากใบ ที่มีอยู่เดิมแล้วมาทำเป็นสลากการกุศล โดยไม่ได้มีการพิมพ์เพิ่มหรือจัดสรรเพิ่มแต่อย่างใด ซึ่งจะทำให้แต่ละงวดมีสลากใบทั่วไป และสลากการกุศลรวมจำหน่ายงวดละ 80 ล้านใบ แยกเป็นสลากกุศล 11 ล้านใบ และสลากใบทั่วไป 69 ล้านใบ ส่วนสลากดิจิทัลยังมีจำหน่ายงวดละ 25 ล้านใบ

สำหรับข้อแตกต่างระหว่างสลากการกุศล และสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วไปคือ ในส่วนสลากการกุศล มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ เช่น งานสาธารณกุศล การช่วยเหลือผู้ยากไร้ หรือโครงการพัฒนาต่างๆ โดยผลตอบแทน เงินรางวัลที่ได้จากการถูกรางวัลส่วนหนึ่งจะถูกนำไปสมทบเข้ากองทุนเพื่อการกุศลตามที่ระบุไว้ ทำให้ผู้ซื้อสลากได้ร่วมทำบุญไปในตัว และที่สำคัญ เมื่อถูกรางวัลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ของเงินรางวัลมากกว่าสลากทั่วไป

ส่วนสลากกินแบ่งรัฐบาล มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อนำรายได้เข้ารัฐบาล เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ โดยผลตอบแทน เงินรางวัลที่ได้จากการถูกรางวัล จะตกเป็นของผู้ถูกรางวัลทั้งหมด ส่วนการหักเงินรางวัลจะถูกหักภาษีอากรแสตมป์ ณ ที่จ่าย 0.5% ของเงินรางวัลซึ่งน้อยกว่าเงินรางวัลสลากทั่วไป


  
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบการทบทวนหลักการ และแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศล เพื่อให้การพิจารณา และการติดตามการออกสลากการกุศลครั้งต่อไปเป็นไปอย่างเหมาะสม มีความรอบคอบ ชัดเจนยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับสถานการณ์ และข้อเท็จจริงในปัจจุบัน ดังนี้


1. ให้องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เช่นเดิม

2. ให้มีการทบทวนหลักเกณฑ์ และแนวทางในการพิจารณาการออกสลากการกุศล (หลักเกณฑ์ฯ) เป็นดังนี้

 2.1 ประเภทของหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุน ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 หรือมูลนิธิที่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ หรือองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร

 2.2 ลักษณะของโครงการที่ขอรับการสนับสนุน

   1) เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาด้านการศึกษา การสาธารณสุขหรือการลดความเหลื่อมทางสังคม รวมถึงเป็นโครงการที่ก่อประโยชน์แก่ประชาชน และสังคมอย่างทั่วถึงในวงกว้าง

  2) เป็นโครงการที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐ หรือได้รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ และไม่มีการดำเนินงานซ้ำซ้อนกับโครงการที่เสนอขอรับเงินงบประมาณจากภาครัฐทั้งทางตรง และทางอ้อม รวมทั้งไม่มีลักษณะเป็นเงินหมุนเวียนเพื่อใช้ในการบริหารจัดการหรือดำเนินกิจกรรมส่งเสริมทั่วไป
 

 3) เป็นโครงการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเงินจากการออกสลากการกุศลมาก่อน

 2.3 การพิมพ์สลากการกุศลกำหนดให้ไม่เกินจำนวน งวดละ 11 ล้านฉบับ

 2.4 วงเงินที่จะให้การสนับสนุนโครงการต้องไม่เกินโครงการละ 1,000 ล้านบาท และการพิจารณาสนับสนุนโครงการที่ขอออกสลากการกุศลจะต้องมีวงเงินรวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท

 2.5 การพิจารณาออกสลากการกุศลในครั้งถัดไป จะดำเนินการภายหลังจากสำนักงานสลากฯ ออกสลากการกุศลครบวงเงินตามโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติครั้งก่อนโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

 2.6 รายละเอียดข้อเสนอโครงการที่ขอรับการสนับสนุน อย่างน้อยต้องประกอบด้วยความเป็นมาของโครงการ เหตุผลความจำเป็น วัตถุประสงค์ เป้าหมาย รวมถึงผลลัพธ์และผลสัมฤทธิ์ของโครงการที่สะท้อนถึงประโยชน์ต่อประชาชน และสังคมอย่างทั่วถึงในวงกว้าง แผนการดำเนินงาน ผลประกอบการ และการวิเคราะห์สถานะทางการเงินของหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุน ตัวชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินโครงการ และแนวทางการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของโครงการ เป็นต้น

 2.7 การกำกับ และติดตามโครงการสลากการกุศล

1) หน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนเงินจากการออกสลากการกุศลต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การกำกับ และติดตามโครงการสลากการกุศลหรือตามแนวทางการกำกับ และติดตามโครงการสลากการกุศลอื่นใด ตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด

2) ให้คณะกรรมการฯ มีอำนาจในการกำหนดระยะเวลาผูกพันวงเงิน ขยายระยะเวลาผูกพันวงเงิน หรือขยายระยะเวลาดำเนินการตามแผนเบิกจ่ายตามเหตุผลความจำเป็นแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ หากคณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกการสนับสนุนเงินจากการออกสลากการกุศลให้โครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ หากประเภทของหน่วยงานหรือลักษณะโครงการที่ขอรับการสนับสนุนแตกต่างจากหลักเกณฑ์ และแนวทางในการพิจารณาดังกล่าวข้างต้น ให้คณะกรรมการฯ พิจารณาเหตุผล และความจำเป็นเสนอกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรี
   
3. ช่องทางการยื่นข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเงินจากการออกสลากการกุศล

3.1 ให้มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่กำหนดระยะเวลาการยื่นข้อเสนอขอรับการสนับสนุนเงินจากการออกสลากการกุศล และหลักเกณฑ์ฯ บนเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานสลากฯ

3.2 หน่วยงานที่ประสงค์ขอรับการสนับสนุนเงินจากการออกสลากการกุศลยื่นข้อเสนอที่ สคร.

4.การเปิดเผยโครงการที่ได้รับการสนับสนุน ให้มีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่รายชื่อหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุน ชื่อโครงการ และวงเงินที่ได้รับการสนับสนุน บนเว็บไซต์ของ สคร. และสำนักงานสลากฯ

5.สัดส่วนการจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายสลากการกุศล ดังนี้ 1) ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล

2) ไม่เกินกว่าร้อยละ 22.5 เป็นเงินรายได้ที่ให้กับหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุน

3) ร้อยละ 0.5 เป็นค่าภาษีการพนัน

4) ไม่เกินกว่าร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากการกุศลด้วย กรณีมีเงินคงเหลือภายหลังจากการจัดสรรการสนับสนุนโครงการสลากการกุศลให้สำนักงานสลากฯ นำส่งเงินดังกล่าวคืนเป็นรายได้แผ่นดิน
  
“การดำเนินการโครงการสลากการกุศลจะช่วยสนับสนุนโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาด้านการศึกษา การสาธารณสุข หรือการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน และสังคมอย่างทั่วถึงในวงกว้าง ที่ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐหรือได้รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อดำเนินการโครงการดังกล่าวได้อย่างทันท่วงทีซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น” นายคารม กล่าว

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์