ครม.ไฟเขียว พ.ร.บ. ‘เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์‘ เตรียมเข้าสู่ขั้นตอนสภาฯ
ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร เตรียมเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร ยันมีพื้นที่กาสิโนเพียง 10% เก็บค่าเข้าคนไทย 5,000 บาท
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (13 ม.ค.68) ว่า ครม. มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ หลังเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน และปรับปรุงแก้ไขร่างพ.ร.บ.ตามความคิดเห็นจากการรับฟังความเห็นจากประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว โดยรัฐบาลหวังให้โครงการนี้เป็นโครงการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ
นางสาวแพทองธาร ระบุด้วยว่า โครงการเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หากเกิดขึ้นได้เร็วก็จะดี เพราะอย่างสิงคโปร์ มีการทำโครงการนี้ และมีกาสิโนเพียง 10% ก็ทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นมาก และระดับเศรษฐกิจ จีดีพีก็เติบโตขึ้นได้อย่างมาก หวังว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เช่นกัน สำหรับคนไทยที่ต้องการเข้าใช้บริการในส่วนกาสิโนจะต้องจ่ายค่าเข้า 5,000 บาท
ส่วนกรณีที่มีความกังวลว่าประเทศไทย จะมีธุรกิจสีเทา นอกกฎหมายมากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากสามารถทำทุกเรื่องให้โปร่งใส ก็จะเป็นเรื่องบวกกับประเทศ และมีภาษีที่ได้มากขึ้นก็ถือเป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มขึ้นของประเทศ
สำหรับขั้นตอนต่อไปร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับถ้อยคำให้สอดคล้องกับข้อกฎหมาย และคำแถลงนโยบายของรัฐสภา และเตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงข้อท้วงติงจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.การประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร ว่า หลังจากกระทรวงการคลังได้หารือ เหตุผล ความจำเป็นเป็นอย่างไร ซึ่งมีเหตุผลและความจำเป็นเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่น แต่สิ่งที่ต้องไปกำกับอย่างประเทศอื่นที่มีเกมรูม หรือความสนุกสนาน ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนน้อย แต่รายได้มาจากส่วนอื่นมากกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียง และหาก สถานที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสมก็จะเกิดการจ้างงาน
เมื่อถามว่านอกจากกฤษฎีกาที่ไม่เห็นด้วยแล้วมีหน่วยงานอื่นอีกหรือไม่ นายพิชัย ระบุว่า ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยในเชิงของหลักการ เกือบจะ 90% ที่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ทุกคนมีข้อสังเกตที่ตรงกับลักษณะงานที่ตัวเองดูแลอยู่ อย่างเรื่องกาสิโน ที่กลัวคนไทย และเด็กอายุไม่ถึง 20 ปี เข้าไปเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงต้องรับไว้ ว่าจะต้องกำกับอย่างไร ซึ่งรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนเพราะสิ่งที่รัฐบาลต้องการคือ อยากให้ต่างประเทศเข้ามาใช้เงินมากกว่า
ส่วนสาเหตุที่ไม่ไปแก้ไขกฎหมายการพนันโดยตรง ยืนยันได้ว่าไม่ได้เอาการท่องเที่ยวมาบังหน้า แต่หลายๆ อย่างเป็นเรื่องของการเอนเทอร์เทนเมนต์ และรายได้ที่มาจากกาสิโนเป็นส่วนน้อย
พร้อมยกตัวอย่างห้างสรรพสินค้าหนึ่งห้าง ที่ทุกวันนี้คนไปเดินห้างไม่ได้ไปซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว เพราะทุกคนมีการปรับตัวหมด ในห้างสรรพสินค้ามีบริการที่หลากหลาย แต่เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์คือ ภาพขนาดใหญ่ ต้องดูแลองค์ประกอบให้ไปในทิศทางเดียวกันด้วย จึงต้องออกกฎหมายมากำกับดูแล
พร้อมย้ำว่ากฎหมายเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของกระทรวงการคลัง และกฎหมายการพนันออนไลน์ ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำลังจะศึกษาเป็นคนละเรื่องกัน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมส่งร่างกฎหมาย และข้อคิดเห็น ที่มีการเสนอในที่ประชุม ครม. วันนี้ ให้คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อปรับปรุงร่างกฎหมายก่อนจะเสนอสภาฯ ภายใน 2-3 เดือน ซึ่งมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะเร่งดำเนินการเพื่อให้กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ กฎหมายการอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีความสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมประเทศไทย ในการดึงการลงทุนด้านการท่องเที่ยว Man-Made Attractions ซึ่งเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศ
ซึ่งรัฐบาลต้องการให้มีการลงทุนในลักษณะนี้ในประเทศไทยเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในโครงการราว 1-2 แสนล้านบาท โดยจะมีการเปิดกว้างให้มีการลงทุนจากทั้งในไทย และต่างประเทศ โดยมีเงื่อนไขให้บริษัทผู้ลงทุนหลักจะต้องจดทะเบียนนิติบุคคลไทย ส่วนบริษัทต่างชาติสามารถร่วมลงทุนในลักษณะกิจการร่วมค้า (Consortium) กับบริษัทไทยได้
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นคาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บภาษีจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.2-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในส่วนอื่นๆ ได้ รวมทั้งป้องกันปัญหาอาชญากรรม และการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ที่มีอยู่ในสังคมไทยอีกด้วย
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ได้แก่ กำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ตามที่กำหนด โดยจะต้องประกอบธุรกิจไปด้วยสถาบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท
โดยให้ผู้ได้รับสิทธิ์ได้รับสิทธิ์การทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี
ทั้งนี้ได้กำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์