‘เอนเทอร์เทนเมนต์’ พลิกโฉมเศรษฐกิจ ตั้งเป้าดึงลงทุน - โกยรายได้ท่องเที่ยว

‘เอนเทอร์เทนเมนต์’ พลิกโฉมเศรษฐกิจ ตั้งเป้าดึงลงทุน - โกยรายได้ท่องเที่ยว

ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เปิดทางเอกชนไทยร่วมทุนต่างชาติ ลงทุนแห่งละ 1-2 แสนล้าน “คลัง” หวังพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย ลดสัดส่วนกาสิโนต่อพื้นที่รวมเหลือ 3-5% เพิ่มสนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ ดึงรายได้เข้ารัฐ 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยว 

KEY

POINTS

  • ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ส่งเข้าสภาฯ ใน 2 เดือน
  • เปิดทางเอกชนไทยร่วมทุนต่างชาติ ลงทุนแห่งละ 1-2 แสนล้าน
  • “คลัง” หวังพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย ชี้ลดสัดส่วนกาสิโนต่อพื้นที่รวมเหลือ 3-5%
  • เพิ่มสนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ ดึงรายได้เข้ารัฐต่อปี 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยว 
  •  

นโยบายการผลักดันให้ไทยมีสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาเพื่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยว Man Made destination เพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเพิ่มรายได้ให้รัฐบาล โดยร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ผ่านความเห็นชอบของที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2567 และเตรียมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผย หลังจาก ครม.เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าว โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้มีคณะกรรมการกำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และคณะกรรมการบริหารจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร 

รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ในการอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อเพิ่มการท่องเที่ยว และส่งเสริมการลงทุน ตลอดจนการแก้ปัญหาพนันผิดกฎหมายที่มีในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวม และสนับสนุนการท่องเที่ยวยั่งยืนตามที่เคยแถลงนโยบายต่อรัฐสภา

“ใน ครม.เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พูดว่าไม่ได้ขวางเพียงแต่ต้องการปรับเนื้อหาข้างใน ซึ่งท่านพูดว่าได้อ่านข่าวแล้วขึ้นหัวข้อว่ากฤษฎีกาขวาง ท่านพูดเลยว่าไม่ได้ขวาง เพียงแต่อยากปรับเนื้อหาให้ตรงที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะปรับคำให้เข้ากัน”

‘เอนเทอร์เทนเมนต์’ พลิกโฉมเศรษฐกิจ ตั้งเป้าดึงลงทุน - โกยรายได้ท่องเที่ยว

นายกฯ ยกตัวอย่างสิงคโปร์ทำเศรษฐกิจดีขึ้น

เมื่อถามอีกว่าเป้าหมายจะผลักดันได้ภายในปีนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พยายามผลักดันแต่ต้องรอกระบวนการ แต่เกิดขึ้นเร็วก็ดี โดยสิงคโปร์มีเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนแค่ 10% นอกนั้นเป็นการท่องเที่ยว เมื่อก่อนสิงคโปร์มีสถานที่ท่องเที่ยวน้อย แต่พอมีกาสิโนเข้ามาทำให้การท่องเที่ยวเติบโต และจีดีพีสูงขึ้นมาก ฉะนั้นจะเกิดผลดีกับประเทศ และหากผลักดันให้เกิดขึ้นเร็วนับเป็นสิ่งที่ดี

ส่วนประเด็นดังกล่าวอาจทำให้มองว่าจะมีกลุ่มทุนมาเฟียกระทบภาพลักษณ์ประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องอยู่บนความจริงว่าทุกวันนี้มีการพนันไม่ถูกกฎหมายเต็มไปหมด ฉะนั้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องการแก้ปัญหาการโดนผู้มีอิทธิพลทำอะไรนอกกฎหมาย ดังนั้นสิ่งที่นำมาอยู่ในกฎหมายจะทำให้ชีวิตประชาชนปลอดภัย และรัฐได้ภาษี 

“โลกยุคปัจจุบันถ้าทำให้โปร่งใสได้จะเป็นสิ่งที่บวกให้ประเทศ ความจริงเป็นเรื่องใหม่ในประเทศ ต้องสื่อสารอธิบายบ่อยหน่อย”

 

เร่งชงเข้าสภาฯ ภายใน 2 เดือน 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจาก ครม.เห็นชอบ พ.ร.บ.ดังกล่าว ขั้นตอนจากนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะตรวจร่าง และปรับร่างกฎหมายก่อนเสนอ ครม.เพื่อส่งให้สภาผู้แทนราษฎร ภายใน 1-2 เดือนนี้

สำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐ ข้อที่ 7 คือ เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในไทย 

ทั้งนี้ รัฐบาลยอมรับว่าจะไม่ใช่การผลักดันตั้งกาสิโนถูกกฎหมายขึ้นเพียงอย่างเดียว เพราะจะเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งดูจากสัดส่วนแล้วการก่อสร้างในไทยอาจอยู่ที่สัดส่วน 3-5% ของพื้นที่โครงการทั้งหมดเท่านั้น จากเดิมที่กำหนดไว้ในพื้นที่ในสัดส่วน 10%

“เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยปรับโฉมการท่องเที่ยวเป็นรูปธรรม สร้างรายได้ประชาชน และสร้างรายได้เข้ารัฐ พร้อมทั้งมีรูปแบบการบริหารจัดการเหมาะสม”

ดึงรายได้ท่องเที่ยวเพิ่ม 1.2-2.4 แสนล้าน 

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า การลงทุนจริงแต่ละแห่งไม่ต่ำกว่า 1-2 แสนล้านบาท คาดว่ามีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2-2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างน้อย 13% และลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและนอกฤดูกาลให้แคบลง

รวมทั้งเพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อราย จากปัจจุบัน 40,000 บาท เป็น 60,000 บาทต่อคนต่อทริป สร้างการจ้างงาน 9,000-15,000 ตำแหน่ง โดยการลงทุนแต่ละจุดสร้างรายได้ให้รัฐไม่ต่ำกว่า 1.2-4.0 หมื่นล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่จากธุรกิจโรงแรม สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยว อีกส่วนคือ รายได้จากการพนัน โดยรายได้ทั้งหมดนำไปพัฒนาประเทศ และเยียวยากำกับ และบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการพนัน

“กระทรวงการคลังไม่มีเป้าหมายจะสร้างกี่แห่ง และไม่มีหน้าที่กำกับ อีกทั้งในคณะกรรมการไม่มี รมช.คลัง เพราะที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้ยกร่างกฎหมายแค่นั้น หนักที่สุดมีการบอกว่าใครจะมาทำตรงไหน ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่พูดคุย ต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยการลงทุนต้องออกทีโออาร์ ผู้ลงทุนต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน แต่ทั้งหมดนี้คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนด และพิจารณารายละเอียด”

นอกจากนี้การจัดเก็บรายได้จะกำหนดให้ชัดเจนในคณะกรรมการว่าจะจัดสรรที่ไหนบ้าง เช่น สัดส่วนหลักจะนำส่งคืนรัฐ เพื่อเป็นรายได้ตามกลไกของงบประมาณ อีกส่วนเป็นการจัดสรรคืนไปยังพื้นที่หรือภาคการศึกษา และการเยียวยาในมิติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่ทำการจัดตั้งเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

เงื่อนไขบริษัทจดทะเบียนหมื่นล้านยื่นลงทุน

สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรตั้งบนพื้นที่ที่กำหนด โดยต้องประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอย่างน้อย 4 ประเภทร่วมกับกาสิโน และผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่จดทะเบียนในไทย มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 1 หมื่นล้านบาท 

ทั้งนี้ผู้ได้รับสิทธิการทำสัญญาเช่าระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี และกำหนดให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกิน 30 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุญาต และมีการประเมินการทำงานทุก 5 ปี

รวมทั้งกำหนดอัตราค่าใบอนุญาต โดยเริ่มต้นในการขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท ใบอนุญาตครั้งแรกฉบับละ 5,000 ล้านบาท และรายปีละ 1,000 ล้านบาท การต่ออายุใบอนุญาตครั้งละ 5,000 ล้านบาท และรายปีละ 1,000 ล้านบาท ใบแทนใบอนุญาตฉบับละ 100,000 บาท ค่าเข้าสถานประกอบการกาสิโนของผู้มีสัญชาติไทยครั้งละ 5,000 บาท

ให้อำนาจบอร์ดเคาะพื้นที่เหมาะสมลงทุน

สำหรับการดำเนินการกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร มีอำนาจ และหน้าที่กำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร การบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจร และการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้น มีอำนาจในการกำหนดจำนวนใบอนุญาต และพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อประกอบการพิจารณาของ ครม. 

รวมทั้งเสนออัตราภาษีกาสิโนต่อ ครม.และกำหนดพื้นที่กาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร เวลาเปิด-ปิด ที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร วิธีการลงทะเบียน และอัตราค่าธรรมเนียมของผู้มีสัญชาติไทยที่จะเข้ากาสิโน และการให้วงเงินแก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ รวมทั้งให้อำนาจการต่ออายุหรือเพิกถอนใบอนุญาต และการโอนสิทธิตามใบอนุญาตให้บุคคลอื่นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

ส่วนคณะกรรมการบริหารสถานบันเทิงครบวงจร ประกอบด้วย บุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นประธาน กรรมการโดยตำแหน่ง 11 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 3 คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจ กฎหมายหรือสังคม โดยมีเลขาธิการเป็นเลขานุการคณะกรรมการ

“สภาพัฒน์” ชี้กาสิโนช่วยเศรษฐกิจไม่มาก 

รายงานข่าวจากที่ประชุม ครม.ระบุว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ให้ความเห็นประกอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า การเปิดสถานบันเทิงครบวงจรตามบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.จะมีบทบาทสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเกิดการลงทุน และการจ้างงานธุรกิจหลายประเภท สร้างรายได้ให้ภาครัฐผ่านการนำเศรษฐกิจนอกระบบเข้าระบบได้มากขึ้น โดย สศช.มีความเห็นเพิ่มเติมดังนี้

1.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรควรมุ่งเน้นพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสันทนาการสำหรับครอบครัวที่ประชาชนได้ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยการดำเนินธุรกิจสุ่มเสี่ยง อาทิ กาสิโนต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและให้ความสำคัญการบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด

2.เงินจากการพนันมีลักษณะเป็น “เงินโอน (Transfer)” จะไม่ถูกนำมาคำนวณเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจเพราะไม่ทำให้เกิดผลผลิต (Production) ดังนั้น ธุรกิจกาสิโนอาจไม่กระทบเชิงบวกต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าที่คาดการณ์ไว้

3.การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ควรเน้นการพัฒนาพื้นที่ส่วนใหญ่ในกิจกรรมตาม "บัญชีแนบท้าย" ร่างพระราชบัญญัติฯ เป็นลำดับแรกโดยหากมีธุรกิจกาสิโนร่วมอยู่ด้วยจะต้องเป็นพื้นที่ส่วนน้อยของการพัฒนาทั้งโครงการ

4.ธุรกิจกาสิโน เป็นธุรกิจที่มีนัยต่อการพัฒนาประเทศหลายมิติ โดยเฉพาะผลกระทบด้านลบต่อสังคม ประกอบกับหลายภาคส่วนยังเห็นต่างกับแนวทางการดำเนินการ

ดังนั้น กระทรวงการคลังควรศึกษาผลประโยชน์ และผลกระทบให้ชัดเจน และระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนศึกษาทางเลือกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจกระทบทางสังคมน้อยกว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์