เปิดโมเดล ‘เอนเตอร์เทนเมนต์’ บริหารพื้นที่พิเศษ เอกชนลงทุนใหม่ทั้งโครงการ
“คลัง” ชี้ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” หนุนจีดีพีแค่ช่วงก่อสร้างเพิ่ม 0.2% ยังไม่นับรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีการก่อสร้างเสร็จ ระบุการลงทุนไม่จำกัดสัญชาติต้องเป็นทุนขนาดใหญ่ที่เชื่อมั่นว่าสร้างการลงทุนได้จริง คาดกฎหมายมีผลบังคับใช้ต้นปี 2569
หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เมื่อวันที่ 13 ม.ค.2568 มีความชัดเจนเกี่ยวกับรูปแบบการลงทุนเพิ่มมากขึ้น โดยรัฐบาลได้เตรียมข้อมูลเบื้องต้นไว้ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายต่อเนื่องและเริ่มก่อสร้างได้ภายในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว โดยใช้โมเดลคล้ายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการออกกฎหมายเฉพาะขึ้นมาบริหารจัดการ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก
ทั้งนี้ เมื่อร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดพื้นที่และเงื่อนไขการลงทุน
สำหรับรูปแบบการลงทุนเบื้องต้นจะเป็นการเปิดประมูล โดยต้องการให้ผู้เข้าประมูลเป็นกิจการค้าร่วม (Consortium) ที่มีทั้งบริษัทไทยและต่างชาติ ซึ่งต้องจดทะเบียนในไทยและมีทุนจดทะเบียน 10,000 ล้านบาท รวมทั้งเป็นการลงทุนใหม่ทั้งโครงการ โดยเสนอแผนการลงทุนที่ประกอบด้วยกิจกรรมสถานบันเทิงครบวงจรร่วมกับกาสิโน และประเมินการลงทุนขั้นต่ำแห่งละ 100,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร จะเป็นผู้กำหนดพื้นที่รองรับการลงทุน โดยจะมีการศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่การลงทุนที่พิจารณาจากหลายประเด็น เช่น 1.พื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานเหมาะสม เช่น ด้านคมนาคม 2.พื้นที่แหล่งท่องเที่ยว 3.พื้นที่ของรัฐที่จะทำให้รัฐได้ค่าเช่าจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งขนาดของพื้นที่อาจจะไม่ต่ำกว่า 300 ไร่
“รัฐบาลต้องการให้เกิดการลงทุนใหม่เพราะสร้างการหมุนเวียนในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจต้องกำหนดให้องค์ประกอบของสถานบันเทิงครบวงจรต้องเป็นการลงทุนใหม่ โดยกาสิโนจะมีสัดส่วนเพียง 5% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวครบวงจรที่เหมาะสำหรับครอบครัว เช่นเดียวกับโมเดลที่ประสบความสำเร็จในสิงคโปร์ มาเก๊าและลาสเวกัส” นพ.พรหมินทร์ กล่าว
สำหรับโครงการดังกล่าวจะประกอบด้วยโรงแรมระดับ 4-5 ดาว รวมกันไม่ต่ำกว่า 5,000 ห้อง รวมทั้งมีศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ สนามกีฬาในร่มความจุ 10,000-16,000 ที่นั่ง คอนเสิร์ตฮอลล์มาตรฐานระดับโลก ศูนย์การค้าและร้านค้าปลอดภาษี สวนสนุก พื้นที่จัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรม ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ และสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ
นพ.พรหมินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก 6 ราย แสดงความสนใจเข้ามาลงทุน โดยผู้ที่จะมาลงทุนต้องมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 10,000 ล้านบาท และต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท พร้อมมีประสบการณ์ในการบริหารสถานบันเทิงครบวงจรระดับนานาชาติ มีแผนธุรกิจที่ครอบคลุม
รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้มีเอกชนต่างชาติที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรีสอร์ตและกาสิโนระดับโลกสนใจลงทุนในไทย 6 ราย ประกอบด้วย 1.Las Vegas Sands 2.กลุ่ม Wynn Resorts 3.กลุ่ม Caesars Entertainment 4.กลุ่ม MGM China Holdings Limited 5. กลุ่ม Hard Rock Café 6.Melco Resorts & Entertainment ผู้ดำเนินการกาสิโนในมาเก๊า
คาดประกาศใช้กฎหมายได้ต้นปี 2569
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้ประเมินกรอบเวลาการขับเคลื่อนนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร โดยหลังจาก ครม.เห็นชอบในหลักการและส่งร่างกฎหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจจะใช้เวลา 45 วัน ก่อนที่จะเสนอกลับมาที่ ครม.และเสนอต่อรัฐสภาในเดือน มี.ค.2568 ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 9 เดือน ก่อนประกาศใช้เป็นกฎหมายในไตรมาส 1 ปี 2569
ทั้งนี้ หากเป็นไปตามกรอบเวลาดังกล่าวจะทำให้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ศึกษาพื้นที่และประกาศเงื่อนไขการลงทุนได้ในปี 2569 หลังจากนั้นจะเปิดประมูลและคาดว่าเริ่มก่อสร้างในปี 2570 ก่อนที่รัฐบาลจะครบวาระ ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 3-4 ปี
นายจุลพันธุ์ กล่าวถึงกรณีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นว่าไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า ความเห็น สศช.ที่ส่งมาที่ ครม.ไม่ได้มีประเด็นดังกล่าว โดยถ้าจำไม่ผิดให้ดูผลกระทบ เพราะกฎหมายต้องมาควบคุมกำกับดูแล พร้อมกับเยียวยา รวมถึงผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับการพนันอาจไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง แต่การศึกษาของกระทรวงการคลัง เกิดผลกระทบ 2 ช่วง คือ 1.ช่วงก่อสร้างจีดีพีโตได้กว่าปีละ 0.2% 2.ช่วงเปิดดำเนินการสร้างจีดีพี 0.7% จากกิจกรรมในสถานบันเทิงครบวงจร
“คลัง” ยืนยันต้องเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมด
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวจะต้องเป็นการลงทุนใหม่ทั้งหมด ไม่สามารถต่อยอดจากโครงการเดิมได้ เพื่อให้เกิดการลงทุนที่แท้จริง โดยจะเน้นการพัฒนาบนที่ดินของรัฐ และต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม รวมถึงอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน
“ภาครัฐจะมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด ทั้งการป้องกันการฟอกเงิน การคุ้มครองผู้เล่นชาวไทยด้วยการเก็บค่าเข้า การจำกัดการเข้าใช้บริการ และระบบ Responsible Gaming ที่จะช่วยป้องกันปัญหาการพนัน” นายจุลพันธ์ กล่าว
ชี้ “กฤษฎีกา” ต้องใช้เวลาแก้ร่างกฎหมาย
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า การปรับแก้ร่างกฎหมาย พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ตามขั้นตอนที่ ครม.ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาจะใช้เวลาพอสมควรเพราะกฤษฎีกาต้องปรับร่างกฎหมายหลายมาตราให้สอดคล้องวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลจะส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่และเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
ทั้งนี้ ต้องให้ความสำคัญในการกำหนดพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนของกิจการตามบัญชีแนบท้ายที่ลงทุนหลายกิจการ เช่น สวนสนุก โรงแรม สนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์และสถานที่จัดประชุม สัมมนา
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยสร้างรายได้ให้ประเทศได้ และเกิดผลกระทบทางสังคมน้อยกว่ากาสิโน ซึ่งกำหนดเป็นพื้นที่ส่วนน้อยในโครงการ ซึ่งการลงทุนส่วนนี้กฎหมายจะให้สิทธิ์แก้ปัญหาและอุปสรรคการลงทุน ซึ่งปัจจุบันร่างกฎหมายที่เสนอให้ ครม.พิจารณายังไม่ได้ให้น้ำหนักกับประเด็นเหล่านี้ แต่ให้น้ำหนักกับการลงทุนในกาสิโนซึ่งจะผิดวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไว้
นอกจากนี้ ในการแก้ไขร่างกฎหมายนั้น จะให้ความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดกาสิโนอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่เป็นผลกระทบข้างเคียงกับสังคมตามมา
เสนอ มท.1 ร่วมรักษาการในร่าง พ.ร.บ.
ส่วนในข้อเสนอของหน่วยงานอื่นๆ ที่ได้เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ยังมีข้อเสนอจากกระทรวงมหาดไทยที่ระบุว่าสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้กระทบต่อภารกิจของกระทรวงมหาดไทยค่อนข้างมาก จึงอาจพิจารณาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่รักษาการร่วมในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้
ดังนั้น จึงควรพิจารณาให้มีกระบวนการออกกฎหมายที่มีการขับเคลื่อนร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และคงไว้ซึ่งหน้าที่และอำนาจของเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญาสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจร