ราคาทองขึ้นต่อ หลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ฟื้นความหวังดอกเบี้ยลด

ราคาทองขึ้นต่อ หลังเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ฟื้นความหวังดอกเบี้ยลด

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันพุธ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ ทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อคลี่คลายลง และฟื้นความหวังว่าวงจรการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจยังไม่สิ้นสุดลง

รอยเตอร์ส รายงานการซื้อขายทองคำในวันพุธ (15 ม.ค.) ว่า ราคาทองคำในตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.6% แตะที่ 2,693.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ 14:23 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐ (19.23 GMT) ส่วนราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ(Gold Futures) เพิ่มขึ้น 1.3% แตะที่ 2,717.80 ดอลลาร์

สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า หากไม่นับรวมหมวดสินค้าอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 3.2% จากปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3%

“ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานต่ำกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย ซึ่งถือเป็นเรื่องดีสำหรับทองคำ... ผลที่ตามมาก็คือ เฟดจะไม่ตัดความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป” บาร์ต เมเล็ก หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของกลุ่มบริการด้านการเงิน TD Securities กล่าว

“โอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดในเดือนมกราคมนั้นแทบจะเป็นศูนย์ แต่เราได้คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดบ้างภายในสิ้นปีนี้”

ขณะนี้ ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 40 เบซิสพอยท์ (bps) ภายในสิ้นปีนี้ เมื่อเทียบกับ 31 เบซิสพอยท์ก่อนเผยแพร่รายงานข้อมูลเงินเฟ้อ

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% ทำให้ทองคำแท่งน่าสนใจสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานอ้างอิงก็ลดลงเช่นกัน

นักลงทุนกังวลว่า การขึ้นภาษีศุลกากรหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้าทำเนียบขาวในสัปดาห์หน้าอาจกระตุ้นให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นและจำกัดความสามารถของเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับที่มากขึ้น

ทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยถือเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะทำให้ความน่าสนใจของทองคำลดลงก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีศุลกากรและนโยบายกีดกันการค้าของทรัมป์สำหรับเศรษฐกิจโลกและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการเติบโตนั้นน่าจะช่วยรักษาอุปสงค์ทองคำได้ ซายน์ วาวดา นักวิเคราะห์ตลาดจาก MarketPulse by OANDA กล่าว

ด้านราคาโลหะเงินพุ่งขึ้น 2.6% แตะที่ 30.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมพุ่งขึ้น 0.2% แตะที่ 937.58 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมพุ่งขึ้น 2.6% แตะที่ 962.98 ดอลลาร์