เอกชนไทย-จีนเทรดมันสำปะหลัง จับมือหนุน“อุตสาหกรรมต่อเนื่อง”

เอกชนไทย-จีนเทรดมันสำปะหลัง  จับมือหนุน“อุตสาหกรรมต่อเนื่อง”

เอกชนไทย-จีนเทรดมันสำปะหลัง 4.4 แสนตัน พร้อมเปิดทางความร่วมมือส่งเสริมอุตฯอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในระยะยาว ด้านกรมการค้าภายในตรวจเข้มซื้อขายมันฯเป็นธรรม-ป้องลักลอบ

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเดินหน้าสานต่อความร่วมมือขยายตลาดการค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ผ่านการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ณ นครเซี่ยงไฮ้ และนครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อให้เกิดการซื้อ-ขายสินค้ามันสำปะหลังกับผู้ประกอบการไทย เป็นจำนวนปริมาณ 440,000 ตัน รวมเป็นมูลค่ากว่า 5,314.95 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยดูดซับหัวมันสดในประเทศไทยได้กว่า 1.68 ล้านตัน

โดยคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนของไทย ได้เจรจาจับคู่ธุรกิจการค้า (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยกับผู้ประกอบการจีนประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการและผู้นำเข้าระดับท็อปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของจีนที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนถึง 51 ราย จากอุตสาหกรรมขั้นปลายที่มีศักยภาพทั้งเก่าและใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมกาว และอุตสาหกรรมกระดาษ โดยเฉพาะได้รับความสนใจจากบริษัท New Hope Group ซึ่งถือเป็น 1 ในบริษัทผลิตอาหารสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนที่มีเงินทุนจดทะเบียนสูงถึง 3.4 แสนล้านหยวน ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาการค้าและหารือได้สร้างโอกาส ในการนำผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทยไปใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ในประเทศจีนมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการส่งเสริมการค้ามันสำปะหลังในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนในระยะยาวต่อไป

“เป็นสัญญาณอันดี ที่รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าสานต่อความร่วมมือเพื่อขยายตลาดการค้า ที่จะส่งผลผลักดันให้มันสำปะหลังไทยเข้าสู่ตลาดอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ของประเทศจีน และไม่เพียงแค่เป็นการเปิดตลาดเก่าและขยายตลาดใหม่ รัฐบาลจะดำเนินมาตรการและติดตามผลการเจรจาซื้อขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาดการนำเข้ามันสําปะหลังจากเส้นทางสาธารณรัฐประชาชนจีนให้มากที่สุด โดยผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทยมีชื่อเสียงด้านคุณภาพระดับโลกมาอย่างยาวนาน อีกทั้งคุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่นเหนือกว่าธัญพืชอื่น ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้มันสำปะหลังไทยเป็นวัตถุดิบพรีเมียมทดแทนในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้อย่างดีอีกด้วย”

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ซึ่งคาดว่าเกษตรกรจะนำผลผลิตออกมาจำหน่ายจำนวนมาก เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมจากการขายผลผลิตทางการเกษตร และป้องกันการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน  

กรมการค้าภายในเร่งกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะมันสำปะหลังให้มีเสถียรภาพ เพื่อการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ปูพรมตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อมันสำปะหลังทั่วประเทศ รวมทั้งเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและขนย้ายมันสำประหลังตามแนวชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน

จากการนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และนายตรวจชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การรับซื้อมันสำปะหลังของผู้ประกอบการโรงแป้งและโรงงานผลิตเอทานอล รวมถึงตรวจสอบการขนย้ายบริเวณด่านพรมแดนช่องทางการนำเข้า ในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ อำเภอสิรินธร อำเภอนาเยีย จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 8 - 9 มกราคม 2568 พบว่า ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการแสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด โดยราคาหัวมันสด เชื้อแป้ง 25% ราคาอยู่ที่ 2.45 – 2.60 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรพึงพอใจ ในส่วนของการนำเข้าและการขนย้าย ไม่พบว่ามีการลักลอบนำเข้าแต่อย่างใด