ราคามะพร้าวอ่อนขาขึ้น “แล้ง-โรค”กดผลผลิตหดตัว

โครงการบริหารจัดการผลผลิตสินค้าเกษตรตามแผนที่เกษตรเพื่อบริหารจัดการเชิงรุก (Agri-Map)การจัดทำข้อมูลสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในระดับจังหวัด โดยความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในระดับพื้นที่
นายกิจษารธ อ้นเงินทยากร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 ราชบุรี(สศท.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะทำงานพัฒนาคุณภาพข้อมูลปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรด้านพืช ภาคตะวันตก ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง สศท.10 ได้นำเสนอข้อมูลการสำรวจและปริมาณการผลิตสินค้ามะพร้าวอ่อน ปี 2565 - 2566 ของภาคตะวันตกทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
“ จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ของสศท.10 คาดการณ์ว่าผลผลิตภาพรวมมะพร้าวอ่อน ปี 2567 ของภาคตะวันตก ทั้ง 7 จังหวัด มีผลผลิตรวม 313.84 ล้านผลผลผลิตลดลงจากปี 2566 เนื่องจากประสบกับภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปกติ และมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนิโญ ยาวนานถึงเดือนมิ.ย. 2567 ส่งผลให้มะพร้าวออกจั่น ติดผลไม่สมบูรณ์ ผลแคระแกรนผลลีบ ผลทุย ผลแตกไม่ได้คุณภาพ ซึ่งบางพื้นที่ประสบปัญหาแมลงศัตรูพืชระบาดส่งผลให้ต้นไม่สมบูรณ์”
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตรวมของปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากในช่วงปลายฤดูฝนของปี2567มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้น และหากในปี2568สภาพอากาศเอื้ออำนวย มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อความต้องการของมะพร้าวทำให้ต้นมะพร้าวมีการสะสมอาหารและต้นมะพร้าวสมบูรณ์ขึ้น จะส่งผลให้การออกดอกและการติดผลต่อทะลายเพิ่มขึ้น
ด้านราคามะพร้าวอ่อนที่เกษตรกรขายได้ ขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนม.ค. 2567 เป็นต้นมา และยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากภาวะภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด
โดยราคาเฉลี่ยที่เกษตรกรขายได้ 7 จังหวัด ปี 2567เฉลี่ย 17.06 บาท/ผล โดยราคาต่ำสุด 7.35 บาท/ผล ในเดือนต.ค. 2567 และราคาสูงสุด 32.80 บาท/ผล ในเดือนมิ.ย. 2567สำหรับราคา ณ เดือนธ.ค. 2567เฉลี่ยอยู่ที่ 9.58 บาท/ผล (ราคา ณ ไร่นา เฉลี่ย 3 สัปดาห์ วันที่ 16ธ.ค. 2567)
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตมะพร้าวอ่อนในรอบปี มักจะให้ผลผลิตน้อยในช่วงเดือน เม.ย. - มิ.ย. ของทุกปี เนื่องจากการผสมเกสรไม่ติด ดอกตัวเมียร่วง ในช่วง 6 เดือนก่อนหน้านั้น ผลผลิตไม่ติด หรือติดน้อยมาก ไม่พัฒนาเป็นผลจึงทำให้ราคาผลผลิตมะพร้ามอ่อนในช่วงนั้นสูงกว่าปกติ
อีกทั้ง ยังพบว่าไรสี่ขามะพร้าว ทำลายผิวมะพร้าว หนอนหัวดำ และด้วงแรด ระบาด ซึ่งเกษตรกรยังไม่สามารถกำจัดให้หมดไปได้ รวมถึงยังประสบปัญหา ผลร่วง และผลแตก ทำให้ผลผลิตไม่สม่ำเสมอตลอดปี และหากขาดน้ำยังทำให้เกิดผลลีบ ผลทุย อีกด้วย
ทั้งนี้ แนะนำเกษตรกรหมั่นดูแลสวน กำจัดและควบคุมวัชพืช จำพวกวัชพืชแย่งน้ำ แย่งอาหารอื่นๆ บริเวณรอบโคนต้น เพิ่มอินทรีย์วัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ร่วมกับปุ๋ยเคมีอย่างน้อยปีละครั้ง และหมั่นกำจัดแมลงศัตรูพืชเป็นประจำ เพื่อรักษาระดับปริมาณผลผลิตให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี
หากพิจารณาแยกเป็นรายจังหวัดพบว่าราชบุรีมีเนื้อที่ให้ผล 90,784 ไร่ เพิ่มขึ้น 1,136 ไร่ หรือ1.27% ผลผลิต 163.81 ล้านผล ลดลง 123.84 ล้านผล หรือ43.05% สมุทรสาคร มีเนื้อที่ให้ผล 55,297 ไร่ เพิ่มขึ้น 1,085 ไร่ หรือ 2% ผลผลิต 97.25 ล้านผล ลดลง 80.47 ล้านผล หรือ 45.28% นครปฐม มีเนื้อที่ให้ผล12,080ไร่ เพิ่มขึ้น1,213ไร่ หรือ 11.16% ผลผลิต 22.43 ล้านผล ลดลง11.49ล้านผล หรือ33.87% สมุทรสงคราม เนื้อที่ให้ผล10,653ไร่ ทรงตัวจากปีที่แล้ว ผลผลิต22.99 ล้านผล ลดลง11.34ล้านผล หรือ 33.03%
ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ให้ผล6,573ไร่ เพิ่มขึ้น274ไร่ หรือ4.35% ผลผลิต4.23 ล้านผล ลดลง2.69ล้านผล หรือ38.89% เพชรบุรีเนื้อที่ให้ผล3,674ไร่ เพิ่มขึ้น240หรือ6.99% ผลผลิต2.67ล้านผล ลดลง1.77ล้านผล หรือ39.87% และกาญจนบุรี เนื้อที่ให้ผล674ไร่ เพิ่มขึ้น193ไร่ หรือ40.12% ผลผลิต0.46ล้านผล ลดลง0.05ล้านผลหรือ9.68% ตามลำดับโดยมะพร้าวอ่อนสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ผลผลิตเริ่มทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนม.ค. และออกมากในช่วงเดือนส.ค.-ธ.ค. 2567 หรือสัดส่วน 48.52% ของผลผลิตทั้งหมด