ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังทรัมป์ขอให้ซาอุดิอาระเบียและโอเปกลดราคา

ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังทรัมป์ขอให้ซาอุดิอาระเบียและโอเปกลดราคา

ราคาน้ำมันดิบตลาดล่วงหน้าร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียและโอเปกลดราคาลง เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ซีเอ็นบีซี รายานงานภาวะตลาดน้ำมันวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 82 เซ็นต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 74.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ซึ่งเป็นราคาอ้างอิงของตลาดโลก ลดลง 71 เซ็นต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าก่อนที่ทรัมป์จะเริ่มกล่าวสุนทรพจน์

ทรัมป์กล่าวหาซาอุดีอาระเบียและองค์กรร่วมประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่ อการส่งออก(โอเปก) ว่าคอยเติมเชื้อไฟให้กับสงครามในยูเครนด้วยการทำให้ราคาน้ำมันสูง โดยทรัมป์อ้างว่าการสู้รบจะยุติลงหากปล่อยให้ราคาน้ำมันดิบโลกลดลง รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก และรายได้จากการขายดังกล่าวช่วยสนับสนุนสงครามของรัสเซีย

“ผมจะขอให้ซาอุดีอาระเบียและโอเปกลดราคาของน้ำมันลง” ทรัมป์กล่าวในการปราศรัยออนไลน์ต่อที่ประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) “หากราคาน้ำมันลดลง สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะยุติลงทันที” ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์กล่าวถึงซาอุดิอาระเบียและโอเปกว่า “พวกเขามีความรับผิดชอบอย่างมากในระดับหนึ่งต่อสิ่งที่เกิดขึ้น”

ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประสานงานกันเพื่อสร้างอิทธิพลต่อราคาน้ำมันโลกผ่านกลุ่มโอเปกพลัส ทั้งสองประเทศและสมาชิกอีก 6 ประเทศในกลุ่มได้ตรึงการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงไว้ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันลดลงมากเกินไป ราคาน้ำมันเผชิญแรงกดดันให้ลดลงในปีที่แล้วเนื่องจากการผลิตที่ล้นเกินในสหรัฐ และความต้องการที่ชะลอตัวลงในจีน

ในเดือนธันวาคม โอเปกพลัส ตัดสินใจขยายเวลาการลดการผลิตไปจนถึงอย่างน้อยเดือนมีนาคม 2025 ก่อนที่จะลดระดับการลดการผลิตน้ำมันดิบลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากเมษายนปีนี้จนถึงกันยายนปีหน้า