พาณิชย์ จ่อขึ้นบัญชี” เครื่องดูดฝุ่น -เครื่องฟอกอากาศ”เป็นสินค้าควบคุม

พาณิชย์ เตรียมเสนอกกร. ขึ้นบัญชี “เครื่องดูดฝุ่น -เครื่องฟอกอากาศ”เป็นสินค้าควบคุม หลังมีความต้องการมากขึ้น ด้าน“พิชัย” กำชับดูแลโครงสร้างราคาสินค้า จัด“ชูใจ วัยเก๋า 60+” ลดราคาสินค้า 20,000 รายการทั่วประเทศ ยาว 91 วัน ลดค่าครองชีพร่วม 10,000 ล้านบาท
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะดูแลราคาสินค้าให้เป็นธรรมกับประชาชน โดยจะเข้ามาดูโครงสร้างราคาสินค้าทั้งหมด โดยขณะนี้มีรายการสินค้าและบริการควบคุม จำนวน 57 รายการ (52 สินค้า 5 บริการ) ซึ่งจะมีการเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณานำสินค้า"เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องดูดฝุ่น เข้าเป็นสินค้าควบคุม" เพื่อกำกับดูแลไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา หรือปรับราคาสูงขึ้นเกินสมควร ในช่วงที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้น จากการที่ประชาชนต้องซื้อไว้ใช้ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเมื่อ กกร. พิจารณาแล้ว ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
สำหรับการเสนอให้เครื่องฟอกอากาศ และเครื่องดูดฝุ่น เป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากปัจจุบัน มีความต้องการซื้อสินค้าจากประชาชน เพิ่มมากขึ้น เพื่อใช้ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และจากการสำรวจตลาด พบว่า เครื่องฟอกอากาศ มีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นจากที่เคยจำหน่ายปกติ รวมถึงไส้กรองเครื่องฟอกอากาศ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ส่วนเครื่องดูดฝุ่น ก็มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยสถานการณ์ยังไม่มีความผิดปกติ แต่ก็ต้องควบคุมไว้ก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ
นายกรณิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การเพิ่มเครื่องดูดฝุ่นและเครื่องฟอกอากาศเป็นสินค้าควบคุม จะทำให้กรมการค้าภายในสามารถเข้าไปดูแลสินค้าได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเรียกข้อมูลจากบริษัทเพื่อตรวจสอบเรื่องปริมาณว่าเพียงพอหรือไม่ ต้นทุน ราคามีความเหมาะสมหรือไม่
ปัจจุบันพบว่าสินค้ายังมีปริมาณเพียงพอและมีหลายยี่ห้อให้ผู้บริโภคเลือก แต่ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมและราคาไม่สูง มีความต้องการเพิ่มขึ้น ทำให้มีความล่าช้าในการส่งมอบ ส่วนการกำหนดราคาจำหน่ายจะต้องสอดคล้องกับต้นทุน ซึ่งปัจจุบันสินค้าควบคุม 57 รายการ มีสินค้าเพียงรายการเดียวที่มีการควบคุมราคาจำหน่ายคือหน้ากากอนามัย
นายพิชัย ยังกล่าวถึงโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า 60+” ว่า กรมการค้าภายในได้ร่วมมือกับภาคเอกชนจัดโครงการ “ชูใจ วัยเก๋า 60+” ตอบรับนโยบายรัฐบาลในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวนกว่า 3 ล้านราย โดยได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการ ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ร้านสะดวกซื้อ และแพลตฟอร์มออนไลน์ กว่า 200 ราย ใน 3 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ และกลุ่มแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมกว่า 20,000 รายการ ลดราคาสินค้า สูงสุด 86% ระยะเวลา 91 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-30 เม.ย. 2568 เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ ที่จะนำเงินไปซื้อสินค้า สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาถูกลง เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายและลดค่าครองชีพประชาชนได้ถึง 10,000 ล้านบาท
โดยสินค้าที่จะนำมาลดราคาในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับ อาหารเสริม นมเพื่อสุขภาพ ข้าวน้ำตาลน้อย เครื่องดูดฝุ่น เครื่องปรับอากาศ พรมปูพื้นกันลื่น ที่นอนยางพารา ราวจับทรงตัว เครื่องวัดออกซิเจน หน้ากากอนามัย ไม้เท้า เตียงไฟฟ้า รวมถึงหมวดบริการทางการแพทย์ เช่น ส่วนลดตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก ตรวจคัดกรองหินปูนเกาะหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น