นโยบาย 'รถไฟฟ้า - รถเมล์ฟรี' 7 วัน รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10%

นโยบาย 'รถไฟฟ้า - รถเมล์ฟรี' 7 วัน รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10%

7 วันนโยบายแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 “คมนาคม” ประกาศยกเว้นค่าโดยสาร รถไฟฟ้า - รถเมล์ พบประชาชนใช้บริการเพิ่มต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10% สะท้อนความสำเร็จ และโอกาสต่อยอด “รถไฟฟ้า 20 บาท” เชื่อประชาชนจะปรับพฤติกรรมการเดินทาง

KEY

POINTS

  • ภาพรวม 7 วันนโยบายแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 "คมนาคม" ประกาศยกเว้นค่าโดยสาร รถไฟฟ้า - รถเมล์ พบประชาชนใช้บริการเพิ

สิ้นสุดมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ระยะเร่งด่วน โดยรัฐบาลประกาศให้ใช้ระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า - รถเมล์ ฟรีเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 - 31 ม.ค. 2568 เพื่อต้องการให้ปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง และเป็นผลพวงต่อการลดค่าฝุ่น

“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า หลังจากดำเนินมาตรการยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าและรถเมล์ ก็พบว่าประชาชนหันมาใช้ขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ล่าสุดสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้รายงานข้อมูลจากการเก็บสถิติ พบว่าปกติแล้วในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะมีปริมาณรถยนต์อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคัน โดยจำนวนดังกล่าว แบ่งเป็น รถยนต์ส่วนบุคคล ประมาณ 5 ล้านคัน

ซึ่งภายหลังจากดำเนินการมาตรการยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าและรถเมล์ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ พบว่าปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลในพื้นที่ กทม. ลดลงประมาณ 10% หรือลดลง 5 แสนคัน ซึ่งปริมาณรถยนต์ที่ลดลงนั้นนับเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปล่อยก๊าซและลดปัญหาฝุ่น PM2.5

ทั้งนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนให้การตอบรับดีต่อมาตรการดังกล่าว และพร้อมที่จะเข้าร่วมการรณรงค์ในการลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลอย่างชัดเจน และสะท้อนด้วยว่าประชาชนพร้อมที่จะปรับพฤติกรรมการเดินทางมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ หากรถบบขนส่งสาธารณะเหล่านี้มีอัตราค่าโดยสารที่เข้าถึงได้ ดังนั้นเป็นเครื่องชี้วัดต่อมาตรการ “รถไฟฟ้า 20 บาท” ทุกสีทุกสาย ที่กระทรวงฯ กำลังจะดำเนินการในปีนี้ ว่าจะได้รับการตอบรับดีจากประชาชน

นโยบาย \'รถไฟฟ้า - รถเมล์ฟรี\' 7 วัน รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10%

สำหรับแผนระยะกลาง - แผนระยะยาวนั้น กระทรวงฯ จะเร่งดำเนินการส่งเสริมการขนส่งสาธารณะ พร้อมกับเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นพลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงพิจารณาด้านมาตรการการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) โดยการสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชน

อีกทั้ง จะปรับภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมจำกัดการใช้รถยนต์เก่า หรือจัดเก็บภาษีรถเก่า และเสริมสร้างแนวความคิดในการบูรณาการสวัสดิการกับนโยบายของแต่ละหน่วยงาน ในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ จะปรับสู่รูปแบบ EV ทั้งหมด เพื่อมุ่งเน้นสร้างเสถียรภาพ และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ด้านกรมการขนส่งทางราง สรุปภาพรวมสะสม 6 วัน ระหว่างวันที่ 25 – 30 ม.ค.2568 ตามมาตรการรถไฟฟ้าฟรี มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ารวม 12,085,213 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากช่วงวันเดียวกันของสัปดาห์ที่ผ่านมา 3,369,746 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 38.66% (วันที่ 18-23 ม.ค.2568 รวม 6 วันก่อนมีมาตรการฯ มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า รวม 8,715,467 คน-เที่ยว) และวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันศุกร์สิ้นเดือน และเป็นวันสุดท้ายที่ขึ้นรถไฟฟ้าฟรีตามมาตรการฯ ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งเป็นวันแรกที่มีการจัดงานเกษตร คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้าสูงที่สุด 

นโยบาย \'รถไฟฟ้า - รถเมล์ฟรี\' 7 วัน รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10%

“พิเชฐ คุณาธรรมรักษ์” อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เผยว่า สถิติล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่หกที่มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะสำหรับรถไฟฟ้าทุกสายทางและรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ฟรี เพื่อช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5

พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 2,331,534 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid- 19 (นิวไฮ) โดยมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 700,268 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 42.93% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันพฤหัสบดีในสามสัปดาห์ของเดือน ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา (ค่าเฉลี่ยฯ 1,631,266 คน-เที่ยว) และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามากกว่าวันพุธ (29 ม.ค. 2568) หรือวันตรุษจีนที่ผ่านมา จำนวน 22,922 คนเที่ยว หรือเพิ่มขึ้น 0.99%

สำหรับรายละเอียดปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าแต่ละสาย แบ่งออกเป็น

1. รถไฟฟ้า Airport Rail Link มีผู้ใช้บริการจำนวน 97,204 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 21,760 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 28.84% สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ) 

2. รถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 49,502 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 11,027 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 28.66% สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)

3. รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการจำนวน 699,053 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 197,875 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 39.48% สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)

4. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สีม่วง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 103,533 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 23,168 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 28.83% สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)

5. รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) มีผู้ใช้บริการจำนวน 1,160,024 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ  342,483 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 41.89% สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ) และสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมากว่า 25 ปี

6. รถไฟฟ้าสายสีทอง มีผู้ใช้บริการจำนวน 18,832 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 11,953 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น173.76% (ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีทองมีผู้ใช้บริการสูงสุด จำนวน 48,107 คน-เที่ยว เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2566)

7. รถไฟฟ้าสายนัคราพิพัฒน์ (สีเหลือง) มีผู้ใช้บริการจำนวน 87,045 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 40,541 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 87.18% (ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองมีผู้ใช้บริการสูงสุด จำนวน 92,038 คน-เที่ยว เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2566)

8. รถไฟฟ้าสายสีชมพูให้บริการ มีผู้ใช้บริการจำนวน 116,341 คน-เที่ยว มากกว่าค่าเฉลี่ยฯ 51,461 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 79.32% สูงสุดตั้งแต่มีสถานการณ์ Covid-19 (นิวไฮ)