ยังไม่จบ "สมาคมชาวนา" ร่อนแถลงการณ์ จี้รัฐนำ "ประกันรายได้" กลับมา

ยังไม่จบ "สมาคมชาวนา" ร่อนแถลงการณ์ จี้รัฐนำ "ประกันรายได้" กลับมา

สมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย ออกแถลงการณ์ หักหน้า ไม่เอา  3 มาตรการ อนุการตลาด นบข.ชี้ ไม่แก้ปัญหาความเดือดร้อนชาวนา  จี้ ใช้ "ประกันรายได้"  โดยราคาต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อตัน สำหรับความชื้น 25% ส่วนข้าวความชื้น 15% ต้องได้ 12,000 บาทต่อตัน

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า สมาคมชาวนา และเกษตรกรไทยออกแถลงการณ์แนวทางการแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ขอให้ทาง คณะอนุกรรมการนโยบาย และบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.ด้านการตลาด) ทบทวนมาตรการช่วยเหลือและปัญหาราคาข้าวตกต่ำ

โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.2568 มีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม และได้ร่วมพิจารณามาตรการช่วยเหลือด้าน ราคาข้าว นาปรัง ปีการผลิต 2568 ดังนี้

1. ขยายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน ระยะเวลา 1-5 เดือน ในพื้นที่ 72 จังหวัด ปริมาณ 1.5 ล้านตัน วงเงิน 1,219.13 ล้านบาท

 2. การเพิ่มช่องทางการตลาดในประเทศโดยเปิดจุดรับซื้อ รัฐสนับสนุนค่าบริหารจัดการตันละ 500 บาท ผู้ประกอบการช่วยซื้อในราคานำตลาด 300 บาทต่อตัน เป้าหมาย 300,000 ตัน  ในพื้นที่ 72 จังหวัด งบประมาณ 150 ล้านบาท เป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรที่ต้องการจะขายเลย  

3. โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกข้าว ช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการ 6% สำหรับผู้ประกอบการเก็บสต๊อก 2 - 6 เดือน และผู้ประกอบการรับซื้อราคาสูงกว่าตลาด 200 บาท/ตัน ขึ้นไป เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 524.40 ล้านบาท โดยทั้ง 3 มาตรการ ใช้งบประมาณรวม 1,893.53 ล้านบาท  

ทั้งนี้ทางสมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย  นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย ได้ชี้แจงรายละเอียด ข้อจำกัด และขีดความสามารถของมาตรการดังกล่าวถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับการใช้งบประมาณ การเปิดช่องโอกาสให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบาย

รวมถึงความไม่พร้อมในเรื่ององค์ประกอบในสถาบันที่ร่วมโครงการ และที่สำคัญ มาตรการต่างๆ ยังไม่ตรงตามความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ

 ดังนั้นเพื่อเป็นไปตามมติกรรมการสมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย จึงเห็นพ้องว่า มาตรการทั้งหมด มิได้ตอบสนองความเดือดร้อนของเกษตรกรโดยแท้จริง จึงขอให้คณะอนุกรรมการนโยบาย และบริหารข้าวแห่งชาติ ทบทวนและวางมาตรการใหม่ตามที่เกษตรกรร้องขอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร และป้องกันการสุ่มเสี่ยงทางเสถียรภาพของรัฐบาล 

สมาคมชาวนา และเกษตรกรไทย ขอสรุปความเดือดร้อน ของเกษตรกรผู้ทำนาปรังปีการผลิต 2567/68 ดังนี้ 

1.ขอให้ภาครัฐพิจารนา มาตรการประกันราคาผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าในฤดูนาปรังปีการผลิต 2568  โดยความชื้นไม่เกิน 15% ราคาไม่ต่ำกว่า 12,000  บาทต่อตัน  และความชื้นไม่เกิน 25% ราคาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อตัน

2. ขอให้ภาครัฐพิจารณา มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในกรณีงดเผาตอซังฟางข้าว ไร่ละ 500 บาท ตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้  

3. ขอให้ภาครัฐควบคุมปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยา และน้ำมันเชื้อเพลิง 

4. ขอให้ภาครัฐพิจารณาหาแนวทางชดเชยพื้นที่เกษตรกรที่ใช้เป็นทุ่งรับน้ำ ตามที่เกษตรกรร้องขอ                            

5.ขอให้ภาครัฐพิจารณาโครงการไร่ละ 1,000 ให้ยังคงเดิม อันเป็นการวางมาตรการความเสี่ยงในเรื่องต้นทุนการผลิต

ทั้งนี้  ในการดำเนินโครงการต่างๆ ภาครัฐต้องพิจารณาถึงกลุ่มเกษตรกรที่ทำการเก็บเกี่ยวไปแล้วให้ได้รับสิทธิในมาตรการดังกล่าวทุกมาตรการ โดยเท่าเทียมกัน

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์