'คลัง' จัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกปีงบ 68 สูงกว่าเป้า เก็บ VAT โต 13%

"คลัง" เผยผลจัดเก็บรายได้ 4 เดือนแรกปีงบ 68 ยังสูงกว่าเป้า 1 หมื่นล้าน พบเก็บภาษีแวต จากบริโภคในประเทศ ได้มากกว่าปีก่อน 13%
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567 - ม.ค. 2568) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 826,998 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,380 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.3% และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
เนื่องจากมีการนำส่งรายได้เหลื่อมมาจากปีก่อนของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง และการนำส่งเงินส่วนเกินจากการจำหน่ายพันธบัตรจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล รวมทั้งมีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการบริโภคในประเทศ ได้สูงกว่าปีก่อน 20,730 ล้านบาท คิดเป็น 13%
"ทั้งนี้ ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ยังคงสูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2568 กระทรวงการคลังจะติดตามและบริหารการ จัดเก็บรายได้ เพื่อให้รายได้รัฐบาลสุทธิใกล้เคียงกับเป้าหมายที่กำหนดไว้" นายพรชัย กล่าว
สำหรับรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บ มียอดการจัดเก็บ 858,889 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,056 ล้านบาท หรือ 0.2% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 2.8% แบ่งออกเป็น
- สรรพากรจัดเก็บได้ที่ 646,016 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 7,387 ล้านบาท หรือ 1.2% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 3.7%
- สรรพสามิตจัดเก็บได้ที่ 173,988 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,516 ล้านบาท หรือ 1.4% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 0.7%
- ศุลกากร จัดเก็บได้ที่ 38,885 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,815 ล้านบาท หรือ 6.8% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 2.7%
ขณะที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้รวม 59,726 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 17,051 ล้านบาท หรือ 40% แต่ต่ำกว่าปีก่อนหน้า 15.7% ส่วนกรมธนารักษ์ จัดเก็บรายได้อยู่ที่ 7,467 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 55 ล้านบาท หรือ 0.7% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 1.1%
โดยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 822,991 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 1,581,382 ล้านบาท
โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 478,753 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมกราคม 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 245,494 ล้านบาท